บ้านไออุ่น ที่พักใกล้เดอะเวเนเซียหัวหิน มณฑลหัวหิน
ที่พักไออุ่น (Baanpak-i-un) บ้านพักไออุ่น ที่พักใกล้เดอะเวเนเซียหัวหิน ให้บริการห้องพักคุณภาพอีกที่หนึ่งในหัวหิน ในราคามิตรภาพ ประดับเรียบง่ายเรียบร้อยงดงาม เน้นความสะอาด นอนหลับสบาย และมีสิ่งอำนวยความคล่องให้ในห้องดูกว้างและไม่เบียดเสียดเยียดยัดเกินไปที่จอดรถสะดวกสบาย ไม่เป็นอันตราย บริการกันเองเหมือนอยู่ที่บ้านของท่านเอง การสัญจร บ้านพักไออุ่น ที่พักใกล้เดอะเวเนเซียหัวหิน จากทางสัญจรเพชรเกษมบ่ายหน้าเข้าสู่ตัวเมืองหัวหินและตรงไปที่ หัวหินซอย 32 เลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอยจะเห็นโฮเต็ลบ้านพักไออุ่น ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายมือ สามารถจอดรถได้ที่ที่จอดรถของทาง โรงแรมบ้านพักไออุ่น ที่พักใกล้เดอะเวเนเซียหัวหิน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องพัก ตู้เย็น ห้องติดแอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น โทรทัศน์ บริการwifi http://www.baanpak-i-un.com/iun/iunth.html
ทีเด็ดแทงบอล ประโยชน์ล้านเปอร์เซ็นต์เห็นกันได้
ทีเด็ดบอล กำไรล้านเปอร์เซ็น เพราะแทงอย่างไรมันก็ไม่มีเสีย
เราเคยเป็นหนี้เป็นสินจากการเล่นบาคาร่าและจากการเล่นบอล รวมๆกันเกือบ 5 แสน เงินจำนวนนี้ถือว่าเป็นเบี้ยที่มากเอาการสำหรับมนุษย์ค่าแรงแค่หมื่นต้นๆ กับหน้าที่ความรับผิดชอบในสกุล ทั้งลูก ทั้งภรรยา ทำให้ชีวิตเป็นทุกข์มาก เราได้ติดตามอ่านบทความทีเด็ดและวิธีการต่างๆ ที่มีสมาชิกชี้ทางกันมามากเลยตัดสินใจเลิกเล่น และเอาเงินก้อนสุดท้ายที่พอจะหามาได้มาให้ทุน ขอย้ำนะว่าลงเงิน บางครั้งก็มีแทงเองบ้างนิดๆ หน่อยๆ แต่ก็เป็นเงินที่มันได้มาจากการลงทุน ไม่ใช่ทุนเดิมของตัวเองเลย ก็เลยทำแบบนี้อยู่เกือบปีๆ หมดหนี้สองแสน ชีวิตเราก็เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ทีเดียว และปัจจุบันก็ยังใช้วิธีการนี้อยู่ กับทุนที่มีอยู่ทำให้ผมพอมีรายรับจากการเล่นบอลทีเด็ด วันละ 500 - 2000 วันนี้เราคิดแล้วคิดอีกว่า จะเอาวิธีการนี้มาชี้ช่องดีไหม โดยเฉพาะสำหรับน้องใหม่ๆ หรือท่านที่เสียๆ กันอยู่ และกำลังเป็นหนี้ ตัดสินใจดีแล้วผมจึงอยากจะแนะนำเล็กๆ น้อยๆ เพื่อตอบแทนให้กับคนที่นี่ ที่เคยเอาวิธีการทีเด็ดนี้มาแบ่งปั่นหรือแชร์ความเชี่ยวชาญให้เราได้ตาสว่าง
วิธีการทีเด็ดในการแทงบอลหลังจากที่เริ่มวิเคราะห์บอลเป็นและเริ่มเห็นทีเด็ด มาจัดกันเลยแบบเต็ม ๆ จะเลือกเล่นเว็บไหนก็ได้อย่างเดียวกัน และตอนนี้มีเว็บตรงหลายที่แจกโปรโมชั่น อย่างเช่น ฝาก 1000 ได้โบนัสเพิ่ม 1000 รวมเป็น 2000 ผมก็ใช้วิธีการให้เพื่อน ให้ญาติ ให้คนรู้จัก ไปสมัคร ทุกคนมีตัวตนจริงสามารถพิจารณาได้ แล้วผมก็จะให้เขาฝากเงินเข้าไป มันได้เพิ่มมาเป็น 2000 ก็จะไปเปิดเว็บอื่นที่รับแทงบอลทีเด็ด เปิดหลายๆ เว็บ เพื่อหาเว๊บที่ราคาตรงข้ามกันแล้วเสียค่าน้ำน้อยที่สุด จากนั้นเราก็แทงขัดต่อกันครับ คือ แทงตรงข้ามกันทีเดียว 2000 เลย เพื่อให้เงินจากเว็บที่แจกโปร 1000 มากองอยู่อีกฝั่งมันจะได้ถอนได้แล้ว เวลาแทงก็มานะพยายามทำการบ้านวิเคราะห์ทีเด็ดมาให้ดีๆ ใส่คู่ที่เราชัวร์ที่สุด แล้วกดเลย ถ้าพลาดก็ไม่เป็นไรเงินเราแค่มากองอยู่อีกฝั่งหนึ่งมันไม่ได้หายไปไหน ยังมีโอกาสแทงอีกเยอะเลย พลาดเราก็ทำเหมือนเดิมเก็งหาคู่เด็ดมาแล้วก็แทงทบทีเดียวเอาให้ถูกแล้วมันหมดมาก้องอยู่อีกฝั่งเลย ง่าย ๆ และได้เงินชัวร์ ๆ ที่ประธานต้องตั้งสติให้ดีและมีระเบียบวินัยในการเล่นเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว หารายได้เข้ากระเป๋าอีกทางหรือจะเรียกว่าทีเด็ดเงินได้เสริมก็ได้นะ
ข้อมูลจาก : http://www.ballchamp.com : ทีเด็ด,วิเคราะห์บอล,ทีเด็ดบอล
เราเคยเป็นหนี้เป็นสินจากการเล่นบาคาร่าและจากการเล่นบอล รวมๆกันเกือบ 5 แสน เงินจำนวนนี้ถือว่าเป็นเบี้ยที่มากเอาการสำหรับมนุษย์ค่าแรงแค่หมื่นต้นๆ กับหน้าที่ความรับผิดชอบในสกุล ทั้งลูก ทั้งภรรยา ทำให้ชีวิตเป็นทุกข์มาก เราได้ติดตามอ่านบทความทีเด็ดและวิธีการต่างๆ ที่มีสมาชิกชี้ทางกันมามากเลยตัดสินใจเลิกเล่น และเอาเงินก้อนสุดท้ายที่พอจะหามาได้มาให้ทุน ขอย้ำนะว่าลงเงิน บางครั้งก็มีแทงเองบ้างนิดๆ หน่อยๆ แต่ก็เป็นเงินที่มันได้มาจากการลงทุน ไม่ใช่ทุนเดิมของตัวเองเลย ก็เลยทำแบบนี้อยู่เกือบปีๆ หมดหนี้สองแสน ชีวิตเราก็เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ทีเดียว และปัจจุบันก็ยังใช้วิธีการนี้อยู่ กับทุนที่มีอยู่ทำให้ผมพอมีรายรับจากการเล่นบอลทีเด็ด วันละ 500 - 2000 วันนี้เราคิดแล้วคิดอีกว่า จะเอาวิธีการนี้มาชี้ช่องดีไหม โดยเฉพาะสำหรับน้องใหม่ๆ หรือท่านที่เสียๆ กันอยู่ และกำลังเป็นหนี้ ตัดสินใจดีแล้วผมจึงอยากจะแนะนำเล็กๆ น้อยๆ เพื่อตอบแทนให้กับคนที่นี่ ที่เคยเอาวิธีการทีเด็ดนี้มาแบ่งปั่นหรือแชร์ความเชี่ยวชาญให้เราได้ตาสว่าง
วิธีการทีเด็ดในการแทงบอลหลังจากที่เริ่มวิเคราะห์บอลเป็นและเริ่มเห็นทีเด็ด มาจัดกันเลยแบบเต็ม ๆ จะเลือกเล่นเว็บไหนก็ได้อย่างเดียวกัน และตอนนี้มีเว็บตรงหลายที่แจกโปรโมชั่น อย่างเช่น ฝาก 1000 ได้โบนัสเพิ่ม 1000 รวมเป็น 2000 ผมก็ใช้วิธีการให้เพื่อน ให้ญาติ ให้คนรู้จัก ไปสมัคร ทุกคนมีตัวตนจริงสามารถพิจารณาได้ แล้วผมก็จะให้เขาฝากเงินเข้าไป มันได้เพิ่มมาเป็น 2000 ก็จะไปเปิดเว็บอื่นที่รับแทงบอลทีเด็ด เปิดหลายๆ เว็บ เพื่อหาเว๊บที่ราคาตรงข้ามกันแล้วเสียค่าน้ำน้อยที่สุด จากนั้นเราก็แทงขัดต่อกันครับ คือ แทงตรงข้ามกันทีเดียว 2000 เลย เพื่อให้เงินจากเว็บที่แจกโปร 1000 มากองอยู่อีกฝั่งมันจะได้ถอนได้แล้ว เวลาแทงก็มานะพยายามทำการบ้านวิเคราะห์ทีเด็ดมาให้ดีๆ ใส่คู่ที่เราชัวร์ที่สุด แล้วกดเลย ถ้าพลาดก็ไม่เป็นไรเงินเราแค่มากองอยู่อีกฝั่งหนึ่งมันไม่ได้หายไปไหน ยังมีโอกาสแทงอีกเยอะเลย พลาดเราก็ทำเหมือนเดิมเก็งหาคู่เด็ดมาแล้วก็แทงทบทีเดียวเอาให้ถูกแล้วมันหมดมาก้องอยู่อีกฝั่งเลย ง่าย ๆ และได้เงินชัวร์ ๆ ที่ประธานต้องตั้งสติให้ดีและมีระเบียบวินัยในการเล่นเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว หารายได้เข้ากระเป๋าอีกทางหรือจะเรียกว่าทีเด็ดเงินได้เสริมก็ได้นะ
ข้อมูลจาก : http://www.ballchamp.com : ทีเด็ด,วิเคราะห์บอล,ทีเด็ดบอล
ทีเด็ดบอลการหาค่าของขบเคี้ยวเดือนละ 15,000 บาท
ทีเด็ดการแทงบอลเป็นเรื่องที่นักแทงบอลต้องประสงค์เป็นอย่างมากเพราะมัน อาจจะเป็นคำตอบได้ว่าทีมไหนจะเอาชนะซึ่งเมื่อเอามาประยุกต์กับการแทงบอลแล้วยอมรับได้เลยว่า เป็นผลดีอย่างแน่นอน เพราะอย่างน้อยก็ช่วยให้ท่านเพิ่มความเด็ดเดี่ยวได้บ้างสำหรับราคาต่อรองแต่ละคู่และถึงแม้ว่าเล่นเสีย ก็ยังรู้สึกดีดีกว่ามั่วๆแทงบอลไปเรื่อยเปื่อย
และส่วนใหญ่การวิเคราะห์บอลมักจะพูดเรื่องราคาไหลกันมากกว่า ฟอร์มการเล่น การเป็นเจ้าบ้านหรือทีมเยือน มีน้อยคนมากที่เอ่ยถึงตัวผู้เล่น ความเจริญของทีม ความฟิต ความเร็วความคล่องตัวของนักเตะ แต่มันก็ยังโลเลเสมอไปว่าจะดูกันที่ราคามากกว่าดูที่ทีม
ถ้าหากว่าคุณเล่นอย่างครองสติและมีกฎข้อบังคับในการเล่น รับรองได้เลยว่าคุณสามารถทำเงินได้อย่างสบาย ๆ ซึ่งคุณเองสามารถหาเงินได้อย่างง่าย ๆ แต่ขอร้องว่าอย่ามักมาก ต้องมีสติและวินัยในการเล่นเป็นอย่างแรก อันดับที่สองต้องมีการวิเคราะห์บอลก่อนการเล่นทุกครั้ง ทีเด็ดบอลแต่ละสายต้องมีที่ไปที่มา และในบั้นปลายก็พร้อมลุย
ซึ่งคุณสามารถจะมีรายได้ วันละ 500บาท โดยเฉลี่ยบอกก่อนนะคุณต้องมีเงินสะสมในกระเป๋า เริ่มต้น 7500 บาทขึ้นไป ถ้าอยากได้วันละ 500 บาท
วิธีก็คือแบ่งเป็น 4 ไม้
ไม้ที่1 = แทง 500 บาท หากถูกคู่แรก วันนั้นให้หยุดเล่นทันที ได้ค่าขนม 500 บาท
ไม้ที่2 = แทง 1000 บาท หากคู่แรก ไม่ถูก ใส่คู่ที่สอง 1000 บาท
ไม้ที่3 = แทง 2000 บาท หากคู่ที่สอง ไม่ถูก ใส่คู่ที่สาม 2000 บาท
ไม้ที่4 = แทง 4000 บาท หากคู่ที่สาม ไม่ถูก ใส่คู่ที่สี 4000 บาท
บางท่านมีงบน้อยก็ให้ใช้สูตร 3 ไม้ก็พอ เงินลงทุน 3500 บาท หรือ 4 ไม้ เริ่มไม้ 1ที่ 200 บาท
กฎเกณฑ์การเล่น
1) ต้องมีวินัยและโดยสุจริต ได้ไม้ไหนได้แล้วให้เลิกเล่นฉับพลัน ในวันนั้น
2) เล่นบอลที่มี 4 คู่ เวลาต่างกันเพื่อจะได้มีเวลาตัดสินใจวิเคราะห์บอล ในไม้ต่อๆไปได้
3) ถ้าเสียวันนั้นให้เลิกทันทีถือว่าวันนั้นดวงไม่ดี ซวย
4) บอกช่องทางได้เงินครบ 15000 เมื่อไหร่หยอดใส่กระปุกให้เก็บไว้เป็นเงินสำรองครึ่งนึง 7500 บาท วันหลังเราก็เล่นได้อย่างสบายใจไม่เข้าเนื้องัย
การเล่นบอลแบบนี้จำเป็นต้องใช้คนวิเคราะห์บอลที่ตรงไม่เกินไม้ 2 ก็ได้ค่าขนมแล้วนะ เลือกใช้กันได้ตามแต่ถนัดแต่เน้น ๆ ในเรื่องของระเบียบวินัยและสติ ที่เน้นย้ำบ่อยไม่ใช่อะไร ส่วนมากคนที่เสียจะเป็นคนที่ไม่รู้สึกตัวนี่ละ
http://www.ballchamp.com ทีเด็ด,วิเคราะห์บอล,ทีเด็ดบอล
และส่วนใหญ่การวิเคราะห์บอลมักจะพูดเรื่องราคาไหลกันมากกว่า ฟอร์มการเล่น การเป็นเจ้าบ้านหรือทีมเยือน มีน้อยคนมากที่เอ่ยถึงตัวผู้เล่น ความเจริญของทีม ความฟิต ความเร็วความคล่องตัวของนักเตะ แต่มันก็ยังโลเลเสมอไปว่าจะดูกันที่ราคามากกว่าดูที่ทีม
ถ้าหากว่าคุณเล่นอย่างครองสติและมีกฎข้อบังคับในการเล่น รับรองได้เลยว่าคุณสามารถทำเงินได้อย่างสบาย ๆ ซึ่งคุณเองสามารถหาเงินได้อย่างง่าย ๆ แต่ขอร้องว่าอย่ามักมาก ต้องมีสติและวินัยในการเล่นเป็นอย่างแรก อันดับที่สองต้องมีการวิเคราะห์บอลก่อนการเล่นทุกครั้ง ทีเด็ดบอลแต่ละสายต้องมีที่ไปที่มา และในบั้นปลายก็พร้อมลุย
ซึ่งคุณสามารถจะมีรายได้ วันละ 500บาท โดยเฉลี่ยบอกก่อนนะคุณต้องมีเงินสะสมในกระเป๋า เริ่มต้น 7500 บาทขึ้นไป ถ้าอยากได้วันละ 500 บาท
วิธีก็คือแบ่งเป็น 4 ไม้
ไม้ที่1 = แทง 500 บาท หากถูกคู่แรก วันนั้นให้หยุดเล่นทันที ได้ค่าขนม 500 บาท
ไม้ที่2 = แทง 1000 บาท หากคู่แรก ไม่ถูก ใส่คู่ที่สอง 1000 บาท
ไม้ที่3 = แทง 2000 บาท หากคู่ที่สอง ไม่ถูก ใส่คู่ที่สาม 2000 บาท
ไม้ที่4 = แทง 4000 บาท หากคู่ที่สาม ไม่ถูก ใส่คู่ที่สี 4000 บาท
บางท่านมีงบน้อยก็ให้ใช้สูตร 3 ไม้ก็พอ เงินลงทุน 3500 บาท หรือ 4 ไม้ เริ่มไม้ 1ที่ 200 บาท
กฎเกณฑ์การเล่น
1) ต้องมีวินัยและโดยสุจริต ได้ไม้ไหนได้แล้วให้เลิกเล่นฉับพลัน ในวันนั้น
2) เล่นบอลที่มี 4 คู่ เวลาต่างกันเพื่อจะได้มีเวลาตัดสินใจวิเคราะห์บอล ในไม้ต่อๆไปได้
3) ถ้าเสียวันนั้นให้เลิกทันทีถือว่าวันนั้นดวงไม่ดี ซวย
4) บอกช่องทางได้เงินครบ 15000 เมื่อไหร่หยอดใส่กระปุกให้เก็บไว้เป็นเงินสำรองครึ่งนึง 7500 บาท วันหลังเราก็เล่นได้อย่างสบายใจไม่เข้าเนื้องัย
การเล่นบอลแบบนี้จำเป็นต้องใช้คนวิเคราะห์บอลที่ตรงไม่เกินไม้ 2 ก็ได้ค่าขนมแล้วนะ เลือกใช้กันได้ตามแต่ถนัดแต่เน้น ๆ ในเรื่องของระเบียบวินัยและสติ ที่เน้นย้ำบ่อยไม่ใช่อะไร ส่วนมากคนที่เสียจะเป็นคนที่ไม่รู้สึกตัวนี่ละ
http://www.ballchamp.com ทีเด็ด,วิเคราะห์บอล,ทีเด็ดบอล
ความหลากหลายอาภรณ์ของคนจีน
ในหลายปีที่ผ่านมาการแต่งเนื้อแต่งตัวของคนจีนได้เปลี่ยนเป็นแบบนำสมัยและมีความหลากหลายมากขึ้น ผู้ที่เดินทางในจีนควรเลือกแต่งองค์ทรงเครื่องแบบเรียบๆ และเหมาะแก่กาลเทศะ ในคิมหันต์คุณควรนำเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายเนื้อบางแต่ทนทานไปเพื่อความง่ายดายในการซักและความสบายในการสวมใส่ แผนกบริการซักผ้าตามโรงแรมต่างๆ ของจีนทำความสะอาดเสื้อผ้าของคุณได้หมดจด แต่มักไม่ค่อยพิถีพิถันในการหยิบจับ ซึ่งอาจทำให้เครื่องนุ่งห่มเสียหายได้ ถึงแม้ว่าฤดูนี้มีแต่อากาศค่อนข้างร้อน อุณหภูมิภายในโฮเต็ลที่พักอาจหนาวพอสมควรเนื่องจากระบบทำความเย็น คุณจึงควรนำเสื้อแจ๊คเก็ตบางๆหรือผ้าคลุมไหล่ติดไปด้วย
ชาวจีนส่วนมากแต่งตัวแบบธรรมดาในขณะที่เข้าชมละครและการแสดงอื่นๆคุณจึงไม่จำเป็นต้องแต่งตัวให้มีพิธีรีตองรองเท้าที่เลือกสวมใส่ควรเป็นรองเท่าแบบใส่สบาย หญิงควรหนีรองเท้าส้นสูงในโอกาสนี้ เนื่องจากพื้นของภูมิประเทศเหล่านี้ในบางครั้งเป็นพื้นดินซึ่งจะทำให้เดินเหินได้ลำบาก
รองเท้าที่ใส่สบายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เนื่องจากการชมสถานที่เที่ยวหลายแห่งต้องเดินเท้าเป็นระยะทางไกล และบ่อยครั้งต้องเดินขึ้นเขาสูงขรุขระเช่นตามศาสนสถานบนภูเขาน่านับถือต่างๆตลอดจนไปจนถึงในพื้นที่หลายแห่งของทิเบตและเส้นทางสายไหม
สถานที่ซึ่งควรแต่งองค์แบบเป็นทางการหรือเท่คือ ผับบาร์ โรงแรมชั้นดี สถานเต้นรำ และที่ประชุมต่างๆ เครื่องแต่งกายสำหรับกันฝนและกันลมเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมอีกอย่าง เป็นพิเศษผู้ที่เดินทางท่องแม่น้ำแยงซีและเดินขึ้นเขาน่าเลื่อมใส คิมหันต์ของประเทศจีน (เดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม) เป็นฤดูซึ่งมีฝนตกซุก
ในภาคเหนือ ฤดูหนาวมีอากาศเย็นและแห้งมาก และในบางครั้งมีอุณหภูมิต่ำถึง -15 ถึง -20 องศาเซลเซียส หากเดินทางในฤดูนี้คุณควรมีเสื้อกันหนาวชนิดดี กางเกงเนื้อหนา และรองเท้าบู๊ด ตามมืองใหญ่หลายแห่งคุณสามารถเลือกซื้อเสื้อหนาวขนเป็ดชั้นยอดราคาประหยัดได้ แต่กางเกงคุณภาพเป็นสิ่งที่หาซื้อได้ค่อนข้างยาก ที่มา : http://merrybrighttravel.com
ชาวจีนส่วนมากแต่งตัวแบบธรรมดาในขณะที่เข้าชมละครและการแสดงอื่นๆคุณจึงไม่จำเป็นต้องแต่งตัวให้มีพิธีรีตองรองเท้าที่เลือกสวมใส่ควรเป็นรองเท่าแบบใส่สบาย หญิงควรหนีรองเท้าส้นสูงในโอกาสนี้ เนื่องจากพื้นของภูมิประเทศเหล่านี้ในบางครั้งเป็นพื้นดินซึ่งจะทำให้เดินเหินได้ลำบาก
รองเท้าที่ใส่สบายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เนื่องจากการชมสถานที่เที่ยวหลายแห่งต้องเดินเท้าเป็นระยะทางไกล และบ่อยครั้งต้องเดินขึ้นเขาสูงขรุขระเช่นตามศาสนสถานบนภูเขาน่านับถือต่างๆตลอดจนไปจนถึงในพื้นที่หลายแห่งของทิเบตและเส้นทางสายไหม
สถานที่ซึ่งควรแต่งองค์แบบเป็นทางการหรือเท่คือ ผับบาร์ โรงแรมชั้นดี สถานเต้นรำ และที่ประชุมต่างๆ เครื่องแต่งกายสำหรับกันฝนและกันลมเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมอีกอย่าง เป็นพิเศษผู้ที่เดินทางท่องแม่น้ำแยงซีและเดินขึ้นเขาน่าเลื่อมใส คิมหันต์ของประเทศจีน (เดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม) เป็นฤดูซึ่งมีฝนตกซุก
ในภาคเหนือ ฤดูหนาวมีอากาศเย็นและแห้งมาก และในบางครั้งมีอุณหภูมิต่ำถึง -15 ถึง -20 องศาเซลเซียส หากเดินทางในฤดูนี้คุณควรมีเสื้อกันหนาวชนิดดี กางเกงเนื้อหนา และรองเท้าบู๊ด ตามมืองใหญ่หลายแห่งคุณสามารถเลือกซื้อเสื้อหนาวขนเป็ดชั้นยอดราคาประหยัดได้ แต่กางเกงคุณภาพเป็นสิ่งที่หาซื้อได้ค่อนข้างยาก ที่มา : http://merrybrighttravel.com
ทางเลือกสรร วิเคราะห์บอล ทีเด็ดบอล เล่นเว็บแทงบอลทีเด็ด
วิถีทาง วิเคราะห์บอล ทีเด็ดบอล เล่นเว็บแทงบอลทีเด็ด
ความปลอดภัยบทความก่อนหน้านั้นเราเคยเรขาเรื่อง เว็บบอลออนไลน์ ดีกว่า โต๊ะบอลยังไงก็หวังว่าคงเป็นคุณแก่เพื่อนสมาชิกบ้างไม่มากก็น้อยแต่เข้าใจว่าทุกผู้ทุกนามก็จะมีคำถามว่า แล้วเว็บบอลออนไลน์เจ้าไหนที่เราจะฝากผีฝากไข้ได้ วันนี้ผมมีวิธีการเลือกทีเด็ดเว็บบอลมาให้สมาชิกไว้เป็นข้อมูลกันโดยพวกผมใช้วิถีทางจากประสบการณ์จริงของทีมงานรุมกินโต๊ะที่เล่นบอล ทีเด็ด http://www.ballchamp.com ทั้งโต๊ะและเว็บมาเกือบ10 ปี มาเล่าให้ฟัง
หลายๆเว็บบอลจริงๆแล้วเพิ่งมาเกิดได้คาด 5 ปีที่ผ่านมาเองนะเนื่องจากกระแสโลกยุคใหม่อะไรก็ผ่านอินเทอร์เน็ต ต่อไปกระแสโต๊ะบอลปากซอยจะเริ่มตายไปเพราะจุดแข็งของการเล่นบอลผ่านเว็บนั้น เยอะกว่าเพียบเพราะในเว็บยังข่าวการ วิเคราะห์บอล ทีเด็ดบอล ของทีมต่างได้ให้เรามาเรียนรู้กันรวมอยู่ในเว็บเดียวที่ไม่ต้องไปหาจากตรงนูนที่ตรงนี้ที่ ดังนี้ที่กล่าวไว้ทีเด็ดเว็บบอลยุคปัจจุบันสามรถถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มนะมาติดตามกันเลย
1) เว็บไซส์ผ่านตัวแทนที่แต่งตั้งเป็นทางการในประเทศไทย
ข้อดี- ติดต่อไว สมัครง่ายง่ายๆ เบิกเงิน ถอนเงินไว ตลอด 24 ชม.
ข้อเสีย- ตัวแทนมีหลายขนาด หลายกลุ่ม บางเจ้ามีความเสี่ยง อาจโดนหลอก ต้องเลือกตัวแทนที่มีความน่าเชื่อถือได้
2) เว็บไซส์ตรงจากเมืองนอก
ข้อดี- ดูน่าเชื่อถือได้
ข้อเสีย- ติดต่อยาก ยุ่งยาก เบิกถอนช้าเป็นรอบ สมัครยุ่งยาก เนื่องไม่มีสาขาอยู่ที่ประเทศที่จะแทงและการติดต่อข้ามประเทศทำให้ล่าช้า
ทั้ง2 แบบนี้ขอบอกเลยว่าทีเด็ดทีมงานรุมกินโต๊ะได้สมัครเป็นสมาชิกมาเกือบหมดแล้ว แล้วกล้าพูดได้ว่าเว็บไหนมีจุดดีจุดเสียพวกผมมีข้อแนะนำดังนี้ครับเว็บตรงสำหรับนักเล่นขำๆ 10-500 บาทต่อวัน
ข้อดี
1) อุ่นใจ = ยังไงเว็บทีเด็ดตรงนี้ก็เชื่อได้ว่าตัวแทนแบบเห็นๆ เพราะมีหลักแหล่งที่แน่นอนและที่ต่างประเทศเจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่จับ
2) ไม่จำกัดการแทงขั้นต่ำ = เว็บไซต์ตรงส่วนมากที่น่าสรรเสริญจะเป็นเว็บใหญ่ๆ ไม่จำกัดขั้นต่ำในการแทง 10 บาทก็ยังแทงได้ ขนาด 5 บาทยังแทงได้เลย
จะเลือกทีเด็ดแทงบอลหรือเล่นบอลออนไลน์อย่างไร ต้องอย่าลืมว่าถ้าเราเล่นแล้วจะต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เอาเงินเย็นๆ ที่เราเก็บไว้มาเล่น คือแบบว่าถ้าเสียไปก็ไม่ร้อนใจเท่าไหร่ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นการพนันมันย่อมมีทีเด็ดความเสี่ยงอยู่แล้วไม่มากก็น้อย แต่จะเล่นยังไงสิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องยึดมั่นนั่นก็คือ การมีสติและมีระบบระเบียบวินัยในการเล่น ต้องเล่นในเกมที่เราคิดอุบายไว้ ถ้าวันใดหลุดหรือผิดเกมต้องยุติทันที ห้ามทบห้ามตามทุนคืนเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้เราเสียเยอะ เพราะเราเริ่มงมงายแล้ว ยังไงก็ลองเลือกทีเด็ดกันดูนะว่าจะเล่นกับที่ไหนอยู่ที่วิจารณญาณของเราเองด้วย
ทีเด็ด,ทีเด็ดบอล,วิเคราะห์บอล http://www.ballchamp.com
ความปลอดภัยบทความก่อนหน้านั้นเราเคยเรขาเรื่อง เว็บบอลออนไลน์ ดีกว่า โต๊ะบอลยังไงก็หวังว่าคงเป็นคุณแก่เพื่อนสมาชิกบ้างไม่มากก็น้อยแต่เข้าใจว่าทุกผู้ทุกนามก็จะมีคำถามว่า แล้วเว็บบอลออนไลน์เจ้าไหนที่เราจะฝากผีฝากไข้ได้ วันนี้ผมมีวิธีการเลือกทีเด็ดเว็บบอลมาให้สมาชิกไว้เป็นข้อมูลกันโดยพวกผมใช้วิถีทางจากประสบการณ์จริงของทีมงานรุมกินโต๊ะที่เล่นบอล ทีเด็ด http://www.ballchamp.com ทั้งโต๊ะและเว็บมาเกือบ10 ปี มาเล่าให้ฟัง
หลายๆเว็บบอลจริงๆแล้วเพิ่งมาเกิดได้คาด 5 ปีที่ผ่านมาเองนะเนื่องจากกระแสโลกยุคใหม่อะไรก็ผ่านอินเทอร์เน็ต ต่อไปกระแสโต๊ะบอลปากซอยจะเริ่มตายไปเพราะจุดแข็งของการเล่นบอลผ่านเว็บนั้น เยอะกว่าเพียบเพราะในเว็บยังข่าวการ วิเคราะห์บอล ทีเด็ดบอล ของทีมต่างได้ให้เรามาเรียนรู้กันรวมอยู่ในเว็บเดียวที่ไม่ต้องไปหาจากตรงนูนที่ตรงนี้ที่ ดังนี้ที่กล่าวไว้ทีเด็ดเว็บบอลยุคปัจจุบันสามรถถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มนะมาติดตามกันเลย
1) เว็บไซส์ผ่านตัวแทนที่แต่งตั้งเป็นทางการในประเทศไทย
ข้อดี- ติดต่อไว สมัครง่ายง่ายๆ เบิกเงิน ถอนเงินไว ตลอด 24 ชม.
ข้อเสีย- ตัวแทนมีหลายขนาด หลายกลุ่ม บางเจ้ามีความเสี่ยง อาจโดนหลอก ต้องเลือกตัวแทนที่มีความน่าเชื่อถือได้
2) เว็บไซส์ตรงจากเมืองนอก
ข้อดี- ดูน่าเชื่อถือได้
ข้อเสีย- ติดต่อยาก ยุ่งยาก เบิกถอนช้าเป็นรอบ สมัครยุ่งยาก เนื่องไม่มีสาขาอยู่ที่ประเทศที่จะแทงและการติดต่อข้ามประเทศทำให้ล่าช้า
ทั้ง2 แบบนี้ขอบอกเลยว่าทีเด็ดทีมงานรุมกินโต๊ะได้สมัครเป็นสมาชิกมาเกือบหมดแล้ว แล้วกล้าพูดได้ว่าเว็บไหนมีจุดดีจุดเสียพวกผมมีข้อแนะนำดังนี้ครับเว็บตรงสำหรับนักเล่นขำๆ 10-500 บาทต่อวัน
ข้อดี
1) อุ่นใจ = ยังไงเว็บทีเด็ดตรงนี้ก็เชื่อได้ว่าตัวแทนแบบเห็นๆ เพราะมีหลักแหล่งที่แน่นอนและที่ต่างประเทศเจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่จับ
2) ไม่จำกัดการแทงขั้นต่ำ = เว็บไซต์ตรงส่วนมากที่น่าสรรเสริญจะเป็นเว็บใหญ่ๆ ไม่จำกัดขั้นต่ำในการแทง 10 บาทก็ยังแทงได้ ขนาด 5 บาทยังแทงได้เลย
จะเลือกทีเด็ดแทงบอลหรือเล่นบอลออนไลน์อย่างไร ต้องอย่าลืมว่าถ้าเราเล่นแล้วจะต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เอาเงินเย็นๆ ที่เราเก็บไว้มาเล่น คือแบบว่าถ้าเสียไปก็ไม่ร้อนใจเท่าไหร่ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นการพนันมันย่อมมีทีเด็ดความเสี่ยงอยู่แล้วไม่มากก็น้อย แต่จะเล่นยังไงสิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องยึดมั่นนั่นก็คือ การมีสติและมีระบบระเบียบวินัยในการเล่น ต้องเล่นในเกมที่เราคิดอุบายไว้ ถ้าวันใดหลุดหรือผิดเกมต้องยุติทันที ห้ามทบห้ามตามทุนคืนเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้เราเสียเยอะ เพราะเราเริ่มงมงายแล้ว ยังไงก็ลองเลือกทีเด็ดกันดูนะว่าจะเล่นกับที่ไหนอยู่ที่วิจารณญาณของเราเองด้วย
ทีเด็ด,ทีเด็ดบอล,วิเคราะห์บอล http://www.ballchamp.com
วัฒนธรรมและวัฒนธรรมของคนจีน
ชาวจีนได้ชื่อว่าเป็นผู้มีขนมธรรมเนียม สุภาพและมักปฎิบัติตัวตามกฏเกณฑ์ที่ตายตัวแต่ในหลายๆกรณีชาวจีนปฎิบัติตัวอย่างที่ชาวต่างประเทศรู้สึกว่าไม่สุภาพ และในบางครั้งถึงกับแสดงการเหยียดหยามฝรั่ง โดยเฉพาะชาวยุโรป (ที่ชาวจีนเรียกว่า “พวกจมูกยาว”) นักเดินทางบางคนจึงประสบปัญหาในการซักถามข้อมูลจากคนท้องถิ่น หาคุณมีความรู้สึกว่าคนท้องถิ่นไม่สุภาพต่อคุณ ขอแนะนำให้สงบสติอารมณ์ อย่าตะโกนตอบโต้ และพยายามชี้แจงปัญหาหรือปัญหาของคุณให้บริสุทธิ์หาก
การรักษาหน้าที่เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างในประเทศจีน ชาวจีนถือว่าการเสียหน้าเป็นเรื่องที่น่าอดสูมาก โดยเฉพาะในกรณีที่อยู่ต่อหน้าชาวต่างชาติ คุณจึงควรระมัดระวังเพื่อที่จะไม่ให้เกิดสภาวการณ์ที่ทำให้คนท้องถิ่นรู้สึกเสียหน้า หากต้องการติชมสิ่งใดขอให้ใช้วิจารณญาณตริเพื่อสื่อความหมายอย่างเหมาะสมกับกาละเทศะ
การเรียงชื่อสกุลของชาวจีนตรงกันข้ามกับภาษาไทยคือ ขึ้นต้นชื่อด้วยสกุลเช่น เติ้งเสี่ยวผิง คำว่า เติ้งเป็นสกุล ส่วนคำว่าเสี่ยวผิง เป็นชื่อตัว โดยปกติชื่อตัวจะใช้เรียกกันเฉพาะในหมู่ญาติและเพื่อนสนิท ดังนั้นคุณจึงควรเรียกผู้ที่เพิ่งรู้จักด้วยชื่อสกุล และควรใช้คำว่า คุณ เพื่อให้สุภาพยิ่งขึ้น เช่น คุณเติ้ง ซึ่งในภาษาจีนคือ เติ้งเซียนเซิง (Deng Xian sheng) ในกรณีที่เป็นชาย หรือเติ้งฟูเหริน (Deng Furen) ในกรณีที่เป็นหญิงที่มีครอบครัวแล้ว นอกจากนี้ในบางครั้งยังมีการใส่ตำแหน่งหน้าที่ทางการงานใรการเรียกชื่อชาวจีนอีกด้วย เช่น ผู้จัดการหลี่ คือ หลี่จิ้งหลี (Li jingli) หรืออาจารย์หว่างคือหว่างเจี้ยวโซว (Wang jiaoshoa) คำว่า สหาย ซึ่งใช้นำหน้าชื่อในยุคที่ฝ่ายซ้ายรุ่งเรืองมักไม่ค่อยใช้กันในปัจจุบัน
โดยปกติชาวจีนมักไม่ทักด้วยการจับมือหรือเชคแฮนด์ ถึงแม้จะเป็นกระทำกันในกรณีที่ปราศรัยกับชาวต่างประเทศส่วนการกอดหรือจูบเพื่อร่ำลาเป็นสิ่งที่มีน้อยคนปฎิบัติเช่นเดียวกับในประเทศไทยถึงแม้ว่าในปัจจุบันตามเมืองใหญ่ๆ จะมีคู่รักโอบกอดกันในที่สาธารณะอยู่บ้างโดยทั่วๆไป ชาวจีนจะไม่แสดงความรู้สึกและอารมณ์ในที่สาธารณะ ผู้ที่เดินทางในประเทศจีนควรระมัดระวัง ไม่แสดงความประพฤติที่ขัดกับบรรทัดฐานของสังคมท้องถิ่น และถึงแม้ว่าในปัจจุบันการแสดงความคิดเห็นจะเปิดกว้างมากขึ้นการสนทนาเรื่องการเมืองยังเป็นสิ่งที่คุณควรพึงระวังเรื่องกาละเทศะอยู่
หากคุณได้รับเชิญไปบ้านของชาวจีน คุณไม่จำเป็นต้องนำดอกไม้ไปเพื่อเป็นของกำนัลแก่แม่บ้านอย่างในธรรมเนียมของชาวตะวันตก อย่างไรก็ดีธรรมเนียมนี้เป็นที่ปฎิบัติกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศจีน และควรพึงจำไว้ว่า สีขาวเป็นสีสำหรับงานศพ จึงไม่ควรนำดอกไม้ไปเป็นของกำนัล สุราชนิดต่างๆจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับโอกาสมากกว่า
สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งสำหรับชาวจีน คือการมีเครือข่ายคนรู้จัก เหมือนกับการมีเส้นสายของสยาม กล่าวกันว่าชาวจีนที่ไร้เครือข่ายคนรู้จัก (กวนซี-guanxi) เป็นผู้ที่เป็นจีนเพียงครึ่งเดียว จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำความรู้จักกับผู้คนและคอยติดต่อไปมาหาสู่อย่างสม่ำเสมอ ชาวต่างชาติซึ่งทำธุรกิจในประเทศจีนจึงควรให้คความสำคัญต่อวัฒนธรรมนี้ด้วยการเชิญไปพบปะฉลอง และการให้ของขวัญกันเป็นเรื่องธรรมดา และเป็นสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายต้องตอบแทนกัน การเลี้ยงฉลอง (ซิงเคอ Qingke) เป็นธรรมเนียมจีนเก่าแก่ที่ยังคงปฏิบัติในปัจจุบัน เพื่อเป็นการขอบคุณมิตรสหายที่ได้ความช่วยเหลือหรือเพื่อขยายเครือข่ายคนรู้จักในวงการธุรกิจ และหากคุณได้รับเชิญไปเป็นแขกคุณจะต้องเชื้อเชิญเจ้าภาพที่เคยเชิญคุณเป็นการชดเชยในโอกาสหน้า การตรงต่อเวลาเป็นเรื่องสำคัญอีกอย่างในสังคมจีน โดยเฉพาะในการนัดหมายทางธุรกิจ
คนจีนจำนวนมากมักดื่มเครื่องดื่มประเภทสุราเป็นธรรมเนียมก่อนทานอาหาร แต่การเมามายในที่สาธารณะจัดว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่สมควรในสายตาของชาวจีนทั่วไป ผู้หญิงส่วนมากไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮออล์หรือดื่มแต่เพียงน้อย และการสูบบุหรี่จัดว่าเป็นพฤติกรรมต้องห้ามสำหรับเพศหญิงอยู่
โดยทั่วๆไปชาวจีนกินค่อนข้างเสียงดังซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ชาวต่างชาติไม่จำเป็นต้องกินเสียงดังตามเพื่อปรับตัวให้เข้ากับคนในท้องถิ่น และในปัจจุบันชาวจีนจำนวนมากโดยเฉพาะตามเมืองใหญ่มักไม่ใคร่ชอบใจท่าทางการกินที่มีเสียงประกอบนัก ในร้านอาหารทั่วไปเศษอาหารและกรดูกจะถูกทิ้งลงพื้นข้างๆโต๊ะอาหาร พฤติกรรมที่เห็นได้บ่อยอีกอย่างคือการขาก ซึ่งในปัจจุบันมีการรณรงค์เพื่อให้ผู้คนเลิกลักษณะนิสัยนี้หากไม่ค่อยเป็นผลนัก ผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศจีนควรพึงจำและเตรียมทำใจไว้ว่าเสียงซวบซาบประกอบการกินและการเรอเสียงดังในร้านอาหารเป็นเรื่องปกติ และไม่ใช่เรื่องที่ไม่สุภาพแต่อย่างใด ที่มา : http://merrybrighttravel.com
การรักษาหน้าที่เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างในประเทศจีน ชาวจีนถือว่าการเสียหน้าเป็นเรื่องที่น่าอดสูมาก โดยเฉพาะในกรณีที่อยู่ต่อหน้าชาวต่างชาติ คุณจึงควรระมัดระวังเพื่อที่จะไม่ให้เกิดสภาวการณ์ที่ทำให้คนท้องถิ่นรู้สึกเสียหน้า หากต้องการติชมสิ่งใดขอให้ใช้วิจารณญาณตริเพื่อสื่อความหมายอย่างเหมาะสมกับกาละเทศะ
การเรียงชื่อสกุลของชาวจีนตรงกันข้ามกับภาษาไทยคือ ขึ้นต้นชื่อด้วยสกุลเช่น เติ้งเสี่ยวผิง คำว่า เติ้งเป็นสกุล ส่วนคำว่าเสี่ยวผิง เป็นชื่อตัว โดยปกติชื่อตัวจะใช้เรียกกันเฉพาะในหมู่ญาติและเพื่อนสนิท ดังนั้นคุณจึงควรเรียกผู้ที่เพิ่งรู้จักด้วยชื่อสกุล และควรใช้คำว่า คุณ เพื่อให้สุภาพยิ่งขึ้น เช่น คุณเติ้ง ซึ่งในภาษาจีนคือ เติ้งเซียนเซิง (Deng Xian sheng) ในกรณีที่เป็นชาย หรือเติ้งฟูเหริน (Deng Furen) ในกรณีที่เป็นหญิงที่มีครอบครัวแล้ว นอกจากนี้ในบางครั้งยังมีการใส่ตำแหน่งหน้าที่ทางการงานใรการเรียกชื่อชาวจีนอีกด้วย เช่น ผู้จัดการหลี่ คือ หลี่จิ้งหลี (Li jingli) หรืออาจารย์หว่างคือหว่างเจี้ยวโซว (Wang jiaoshoa) คำว่า สหาย ซึ่งใช้นำหน้าชื่อในยุคที่ฝ่ายซ้ายรุ่งเรืองมักไม่ค่อยใช้กันในปัจจุบัน
โดยปกติชาวจีนมักไม่ทักด้วยการจับมือหรือเชคแฮนด์ ถึงแม้จะเป็นกระทำกันในกรณีที่ปราศรัยกับชาวต่างประเทศส่วนการกอดหรือจูบเพื่อร่ำลาเป็นสิ่งที่มีน้อยคนปฎิบัติเช่นเดียวกับในประเทศไทยถึงแม้ว่าในปัจจุบันตามเมืองใหญ่ๆ จะมีคู่รักโอบกอดกันในที่สาธารณะอยู่บ้างโดยทั่วๆไป ชาวจีนจะไม่แสดงความรู้สึกและอารมณ์ในที่สาธารณะ ผู้ที่เดินทางในประเทศจีนควรระมัดระวัง ไม่แสดงความประพฤติที่ขัดกับบรรทัดฐานของสังคมท้องถิ่น และถึงแม้ว่าในปัจจุบันการแสดงความคิดเห็นจะเปิดกว้างมากขึ้นการสนทนาเรื่องการเมืองยังเป็นสิ่งที่คุณควรพึงระวังเรื่องกาละเทศะอยู่
หากคุณได้รับเชิญไปบ้านของชาวจีน คุณไม่จำเป็นต้องนำดอกไม้ไปเพื่อเป็นของกำนัลแก่แม่บ้านอย่างในธรรมเนียมของชาวตะวันตก อย่างไรก็ดีธรรมเนียมนี้เป็นที่ปฎิบัติกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศจีน และควรพึงจำไว้ว่า สีขาวเป็นสีสำหรับงานศพ จึงไม่ควรนำดอกไม้ไปเป็นของกำนัล สุราชนิดต่างๆจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับโอกาสมากกว่า
สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งสำหรับชาวจีน คือการมีเครือข่ายคนรู้จัก เหมือนกับการมีเส้นสายของสยาม กล่าวกันว่าชาวจีนที่ไร้เครือข่ายคนรู้จัก (กวนซี-guanxi) เป็นผู้ที่เป็นจีนเพียงครึ่งเดียว จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำความรู้จักกับผู้คนและคอยติดต่อไปมาหาสู่อย่างสม่ำเสมอ ชาวต่างชาติซึ่งทำธุรกิจในประเทศจีนจึงควรให้คความสำคัญต่อวัฒนธรรมนี้ด้วยการเชิญไปพบปะฉลอง และการให้ของขวัญกันเป็นเรื่องธรรมดา และเป็นสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายต้องตอบแทนกัน การเลี้ยงฉลอง (ซิงเคอ Qingke) เป็นธรรมเนียมจีนเก่าแก่ที่ยังคงปฏิบัติในปัจจุบัน เพื่อเป็นการขอบคุณมิตรสหายที่ได้ความช่วยเหลือหรือเพื่อขยายเครือข่ายคนรู้จักในวงการธุรกิจ และหากคุณได้รับเชิญไปเป็นแขกคุณจะต้องเชื้อเชิญเจ้าภาพที่เคยเชิญคุณเป็นการชดเชยในโอกาสหน้า การตรงต่อเวลาเป็นเรื่องสำคัญอีกอย่างในสังคมจีน โดยเฉพาะในการนัดหมายทางธุรกิจ
คนจีนจำนวนมากมักดื่มเครื่องดื่มประเภทสุราเป็นธรรมเนียมก่อนทานอาหาร แต่การเมามายในที่สาธารณะจัดว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่สมควรในสายตาของชาวจีนทั่วไป ผู้หญิงส่วนมากไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮออล์หรือดื่มแต่เพียงน้อย และการสูบบุหรี่จัดว่าเป็นพฤติกรรมต้องห้ามสำหรับเพศหญิงอยู่
โดยทั่วๆไปชาวจีนกินค่อนข้างเสียงดังซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ชาวต่างชาติไม่จำเป็นต้องกินเสียงดังตามเพื่อปรับตัวให้เข้ากับคนในท้องถิ่น และในปัจจุบันชาวจีนจำนวนมากโดยเฉพาะตามเมืองใหญ่มักไม่ใคร่ชอบใจท่าทางการกินที่มีเสียงประกอบนัก ในร้านอาหารทั่วไปเศษอาหารและกรดูกจะถูกทิ้งลงพื้นข้างๆโต๊ะอาหาร พฤติกรรมที่เห็นได้บ่อยอีกอย่างคือการขาก ซึ่งในปัจจุบันมีการรณรงค์เพื่อให้ผู้คนเลิกลักษณะนิสัยนี้หากไม่ค่อยเป็นผลนัก ผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศจีนควรพึงจำและเตรียมทำใจไว้ว่าเสียงซวบซาบประกอบการกินและการเรอเสียงดังในร้านอาหารเป็นเรื่องปกติ และไม่ใช่เรื่องที่ไม่สุภาพแต่อย่างใด ที่มา : http://merrybrighttravel.com
หังโจว ซูโจว อู่ซี เขตแดนบรรพ์ ของประเทศจีน
“บนฟากฟ้ามีสรวงสรรค์ บนผืนปฐพีมีซูโจวและหังโจว” เป็นวรรคที่เลื่องลือมากในกวีบทหนึ่งโดย หยางเซ่าหยิง (Yang Chaoying ค.ศ.1271-1368) กวีสมัยราชวงศ์หยวน บทกวีนี้ได้สาธยายถึงความเป็นเลื่องลือของเมืองหังโจว ซูโจว อูซี และเส้าซิง นับแต่สมัยราชวงศ์ซ้องใต้เป็นต้นมา และเมืองที่กล่าวมานี้เป็นเมืองที่มีคลองจักรพรรดิตัดผ่าน
ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 ราชสำนักประเทศจีนพ่ายแพ้ต่อ “ชนป่าเถื่อนทางตอนเหนือ” และได้ถอยร่นลงมายังเมืองนูเจิน (Nuzhen) ในปี ค.ศ.1138 มีการสถาปนาเขตแดนแห่งใหม่ซึ่งมีชื่อว่า อณาจักรซ้องใต้ขึ้น โดยมีเมืองหังโจวเป็น “ฐานชั่วคราว” (หรือที่เรียกว่าซิงไจ้ Xingzai) เมืองหังโจวในฐานะของส่วนกลางของอณาจักรจีนในยุตนี้ได้เติบโตและมีพัฒนาการ เนื่องจากการอพยพข้าวของข้าราชการนักปราชญ์ปริมาณมาก เมืองนี้เป็นเมืองที่ป้อมปราการป้องกันการบุกรุกของเสี้ยนศึกนับแต่สมัยราชวงศ์ถัง
คลองจักรพรรดินี้มีที่มาจากสมัยราชวงศ์โจวตะวันออก (ค.ศ.770-256 ก่อนปีคริสตกาลนับแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 เป็นต้นมา คลองสายนี้ได้รับการขยายจนมีความยาวกว่า 1,100 ไมล์ (1,800 กิโลเมตร) โดยตัดผ่านมณฑลเจ่อเจียนและเจียนสู ไปยังเมืองปักกิ่งและเชื่อมแม่น้ำสี่สายคือ เซียนทังเจียง (Qiantangjian) หยางจือเจียง (Yangzijiang) ไหวเหอ (Huaihe) และฮวงโห (Huanghe) กษัตริย์แห่งรัฐอู่ได้มีพระราชโองการให้ขุดคลองนี้จากเมืองซูโจวไปถึงแม่น้ำแยงซีเพื่อเตรียมรับศึกสงคราม คลองดังกล่าวสร้างเสร็จในปี 495 ก่อนคริสต์ศักราช และมีความยาว 53 ไมล์ (85 กิโลเมตร)
เพียงอีกไม่กี่ปีต่อมา คลองสายนี้ได้ต่อยาวออกโดยเชื่อมเมืองหยางโจวเข้ากับแม่น้ำ 2 สายคือ แม่น้ำแยงซีและแม่น้ำไหวเหอทางตอนเหนือ ตำนานหนึ่งกล่าวว่า จักรพรรดิหยางตี้แห่งราชวงศ์สุย ผู้ครองราชย์ระหว่างปีค.ศ.605-618 ได้มีพระราชโองการให้เชื่อมคลองเข้ากับเมืองหยางโจว โดยทรงเชื่อว่าคลองนี้จะทำให้พระองค์ได้ชมบุษบาสวรรค์ที่มีชื่อว่า ดอกช่วง (qiong) อย่างไรก็ดี ดอกไม้นี้ได้เหี่ยวเฉาไปก่อนที่พระองค์จะได้ยล แต่พระองค์ก็ได้ทรงบัญชาให้ขุดคลองนี้ต่อโดยเชื่อมเมืองลั่วหยาง ซึ่งเป็นราชธานีในขณะนั้นเข้ากับเมืองปักกิ่งทางตอนเหนือ และแม่น้ำไหวเหอทางทิศหรดี นอกจากนี่ยังทรงดำริให้ขุดคลองนี้เชื่องแม่น้ำเจินเจียงกับเมืองหังโจว การขุดคลองซึ่งเป็นเครือข่ายยาวราว 1,700 ไมล์ (2,700 กิโลเมตร) ในครั้งนี้ส่งผลให้ลั่วหยางมีทางติดต่อกับพื้นที่ทางตอนเหนือและปักษ์ใต้ซึ่งมีสภาพเศรษฐกิจที่ดียิ่ง เครื่องราชบรรณาการต่างๆ ได้รับการขนส่งมายังเมืองลั่วหยางโดยอาศัยเส้นทางนี้ การขนส่งผลผลิตต่างๆก็ล้วนแต่ใช้คลองสายนี้ เช่น ธัญพืช (ซึ่งมีพื้นที่เจินเจียง-เจียงสูเป็นแหล่งเก็บเกี่ยวข้าวถึงปีละสามครั้ง) ผ้าไหม เครื่องปั้นดินเผา และผลผลิตอื่นๆซึ่งราชสำนักต้องการ
ราชวงศ์หยวน (ค.ศ.1271-1368) ซึ่งเป็นราชวงศ์ที่ย้ายราชธานีมายังปักกิ่ง ได้สั่งการขุดเครือข่ายคลองนี้เพื่อเพิ่มเชื่อราชธานีเข้ากับเมืองหังโจวโดยตรงการขุดคลองในครั้งนี้ได้ลดระยะที่ต้องเดินทางระหว่างเมืองทั้งสองถึง 620-1,100 ไมล์ (1,000-1,800 กิโลเมตร) ปัจจุบันนี้มีการเล่าเรียนความเป้นไปได้ในการพัฒนาคลองสายนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวคลองสายนี้มิได้เป็นเพียงจุดเยี่ยมชมที่น่าสนใจ หากยังเป็นที่ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถลงเรือชมคลองได้อีกด้วย เป็นโอกาสที่จะได้เห็นชีวิตผู้คนอีกรูปแบบหนึ่ง
เมืองหังโจวได้ถูกกล่าวไว้ในบทกวีหลายบทที่แต่งขึ้นสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ.618-907) เช่นในงานกวีของไป๋จูยี่ (Bai Juyi ค.ศ.772-846) กวีผู้นี้ได้กลายเป็นผู้ว่าราชการเมืองในปีค.ศ.882 และเป็นผู้สั่งการสร้างเขื่อกั้นน้ำที่ ทะเลสาบตะวันตก Wake Lake หรือซีหู (Xihu) เขื่อนนี้มีชื่อว่าไป๋ตี้ (Baidi) จากชื่อของผู้ว่าฯไป๋จูยี่ กวีหญิง หลี่ซิงเจ้า ซึ่งมีชีวิตอยู่ในราวปี ค.ศ.1084-1151 ได้เขียนกลอนขึ้นหลายบทด้วยแรงผลักดันที่ได้จากความงามอันหลากสีสันของเมืองหังโจว หังโจวได้กลายเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อก้องโลกในสมัยราชวงศ์ซ้องไต้ (ค.ศ 1127-1279) สมัยนี้พสกนิกรของเมืองหังโจวได้เพิ่มขึ้นจากเดิม ซึ่งน้อยกว่าห้าแสนคนเป็นจำนวนกว่าล้านคน และทำให้เมืองหังโจวเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเมืองหนึ่งในโลก อย่างไรก็ดีเมืองหังโจวถูกทำลายเสียกายจนเกือบหมดสิ้นในช่วงครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในช่วงเหตุการณ์กบฏไท่ผิง เมืองหังโจวในยุคปัจจุบันแทบจะไม่มีร่องรอยของเมืองที่เคยมีนามห้องโลกหลงเหลืออยู่เลย ที่มา : http://merrybrighttravel.com
ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 ราชสำนักประเทศจีนพ่ายแพ้ต่อ “ชนป่าเถื่อนทางตอนเหนือ” และได้ถอยร่นลงมายังเมืองนูเจิน (Nuzhen) ในปี ค.ศ.1138 มีการสถาปนาเขตแดนแห่งใหม่ซึ่งมีชื่อว่า อณาจักรซ้องใต้ขึ้น โดยมีเมืองหังโจวเป็น “ฐานชั่วคราว” (หรือที่เรียกว่าซิงไจ้ Xingzai) เมืองหังโจวในฐานะของส่วนกลางของอณาจักรจีนในยุตนี้ได้เติบโตและมีพัฒนาการ เนื่องจากการอพยพข้าวของข้าราชการนักปราชญ์ปริมาณมาก เมืองนี้เป็นเมืองที่ป้อมปราการป้องกันการบุกรุกของเสี้ยนศึกนับแต่สมัยราชวงศ์ถัง
คลองจักรพรรดินี้มีที่มาจากสมัยราชวงศ์โจวตะวันออก (ค.ศ.770-256 ก่อนปีคริสตกาลนับแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 เป็นต้นมา คลองสายนี้ได้รับการขยายจนมีความยาวกว่า 1,100 ไมล์ (1,800 กิโลเมตร) โดยตัดผ่านมณฑลเจ่อเจียนและเจียนสู ไปยังเมืองปักกิ่งและเชื่อมแม่น้ำสี่สายคือ เซียนทังเจียง (Qiantangjian) หยางจือเจียง (Yangzijiang) ไหวเหอ (Huaihe) และฮวงโห (Huanghe) กษัตริย์แห่งรัฐอู่ได้มีพระราชโองการให้ขุดคลองนี้จากเมืองซูโจวไปถึงแม่น้ำแยงซีเพื่อเตรียมรับศึกสงคราม คลองดังกล่าวสร้างเสร็จในปี 495 ก่อนคริสต์ศักราช และมีความยาว 53 ไมล์ (85 กิโลเมตร)
เพียงอีกไม่กี่ปีต่อมา คลองสายนี้ได้ต่อยาวออกโดยเชื่อมเมืองหยางโจวเข้ากับแม่น้ำ 2 สายคือ แม่น้ำแยงซีและแม่น้ำไหวเหอทางตอนเหนือ ตำนานหนึ่งกล่าวว่า จักรพรรดิหยางตี้แห่งราชวงศ์สุย ผู้ครองราชย์ระหว่างปีค.ศ.605-618 ได้มีพระราชโองการให้เชื่อมคลองเข้ากับเมืองหยางโจว โดยทรงเชื่อว่าคลองนี้จะทำให้พระองค์ได้ชมบุษบาสวรรค์ที่มีชื่อว่า ดอกช่วง (qiong) อย่างไรก็ดี ดอกไม้นี้ได้เหี่ยวเฉาไปก่อนที่พระองค์จะได้ยล แต่พระองค์ก็ได้ทรงบัญชาให้ขุดคลองนี้ต่อโดยเชื่อมเมืองลั่วหยาง ซึ่งเป็นราชธานีในขณะนั้นเข้ากับเมืองปักกิ่งทางตอนเหนือ และแม่น้ำไหวเหอทางทิศหรดี นอกจากนี่ยังทรงดำริให้ขุดคลองนี้เชื่องแม่น้ำเจินเจียงกับเมืองหังโจว การขุดคลองซึ่งเป็นเครือข่ายยาวราว 1,700 ไมล์ (2,700 กิโลเมตร) ในครั้งนี้ส่งผลให้ลั่วหยางมีทางติดต่อกับพื้นที่ทางตอนเหนือและปักษ์ใต้ซึ่งมีสภาพเศรษฐกิจที่ดียิ่ง เครื่องราชบรรณาการต่างๆ ได้รับการขนส่งมายังเมืองลั่วหยางโดยอาศัยเส้นทางนี้ การขนส่งผลผลิตต่างๆก็ล้วนแต่ใช้คลองสายนี้ เช่น ธัญพืช (ซึ่งมีพื้นที่เจินเจียง-เจียงสูเป็นแหล่งเก็บเกี่ยวข้าวถึงปีละสามครั้ง) ผ้าไหม เครื่องปั้นดินเผา และผลผลิตอื่นๆซึ่งราชสำนักต้องการ
ราชวงศ์หยวน (ค.ศ.1271-1368) ซึ่งเป็นราชวงศ์ที่ย้ายราชธานีมายังปักกิ่ง ได้สั่งการขุดเครือข่ายคลองนี้เพื่อเพิ่มเชื่อราชธานีเข้ากับเมืองหังโจวโดยตรงการขุดคลองในครั้งนี้ได้ลดระยะที่ต้องเดินทางระหว่างเมืองทั้งสองถึง 620-1,100 ไมล์ (1,000-1,800 กิโลเมตร) ปัจจุบันนี้มีการเล่าเรียนความเป้นไปได้ในการพัฒนาคลองสายนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวคลองสายนี้มิได้เป็นเพียงจุดเยี่ยมชมที่น่าสนใจ หากยังเป็นที่ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถลงเรือชมคลองได้อีกด้วย เป็นโอกาสที่จะได้เห็นชีวิตผู้คนอีกรูปแบบหนึ่ง
เมืองหังโจวได้ถูกกล่าวไว้ในบทกวีหลายบทที่แต่งขึ้นสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ.618-907) เช่นในงานกวีของไป๋จูยี่ (Bai Juyi ค.ศ.772-846) กวีผู้นี้ได้กลายเป็นผู้ว่าราชการเมืองในปีค.ศ.882 และเป็นผู้สั่งการสร้างเขื่อกั้นน้ำที่ ทะเลสาบตะวันตก Wake Lake หรือซีหู (Xihu) เขื่อนนี้มีชื่อว่าไป๋ตี้ (Baidi) จากชื่อของผู้ว่าฯไป๋จูยี่ กวีหญิง หลี่ซิงเจ้า ซึ่งมีชีวิตอยู่ในราวปี ค.ศ.1084-1151 ได้เขียนกลอนขึ้นหลายบทด้วยแรงผลักดันที่ได้จากความงามอันหลากสีสันของเมืองหังโจว หังโจวได้กลายเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อก้องโลกในสมัยราชวงศ์ซ้องไต้ (ค.ศ 1127-1279) สมัยนี้พสกนิกรของเมืองหังโจวได้เพิ่มขึ้นจากเดิม ซึ่งน้อยกว่าห้าแสนคนเป็นจำนวนกว่าล้านคน และทำให้เมืองหังโจวเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเมืองหนึ่งในโลก อย่างไรก็ดีเมืองหังโจวถูกทำลายเสียกายจนเกือบหมดสิ้นในช่วงครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในช่วงเหตุการณ์กบฏไท่ผิง เมืองหังโจวในยุคปัจจุบันแทบจะไม่มีร่องรอยของเมืองที่เคยมีนามห้องโลกหลงเหลืออยู่เลย ที่มา : http://merrybrighttravel.com
มณฑลซีอาน (Xi’an ที่เกิดอารยธรรม) ใจกลางของจีน
แถบบริเวณโค้งใหญ่ของแม่น้ำเหลืองทางตรงกลางของจีนในเมืองชาอันซี (Shaanxi) และมณฑลเหอหนาน (Henan) คือจุดเริ่มต้นอารยธรรมของจีน หุบเขานี้เป็นที่ทับถมของตะกอนดินเหลืองอันอุดม เป็นที่ตั้งถิ่นฐานต้นตระกูลของชาวจีน เมื่อราว 3 ศตพรรษก่อนคริสตกาล ความพรั่งพร้อมเป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้คนให้สร้างถิ่นฐาน ในขณะที่ความจำเป็นพัฒนาระบบชลประทาน ทำให้ผู้คนต้องร่วมมือในภารกิจ ผลที่ตามมาก็คือรัฐชาติแห่งแรกที่มีความเป็นปึกแผ่นที่สุดได้เกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้
เมืองซีอันนครหลวงของมณฑลชาอันซี ตั้งอยู่ในหุบเขาฝั่งแม่น้ำเว่ย (Wei) ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่แม่น้ำเว่ยและแม่น้ำเหลืองบรรจบกันเพียงไม่กี่สิบไมล์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้มีการขุดค้นทางโบราณคดีที่สำคัญในเขตลุ่มแม่น้ำเว่ยนี้ ที่นี่เป็นที่ซึ่งจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ ปฐมจักรพรรดิของเมืองจีนได้ทรงรวบรวมแผ่นดิน ปฐมจักรพรรดิของเมืองจีนได้ทรงรวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็นหนึ่งเดียวได้เป็นครั้งแรกในสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ.618-907) เมืองซีอานซึ่งในยุคนั้น มีชื่อว่าฉานอาง (Chang’an แปลว่า สันติภาพสวรรค์) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีเส้นทางสายไหมเป็นเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงกับเมืองต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียกลางและทวีปยุโรป และเป็นเมืองที่มีพ่อค้าชาวต่างชาติอาศัยอยู่เป็นจำนวนนับพันคน
ซีอันเป็นราชธานีของราชวงศ์จีน 11 ราชวงศ์อยู่กว่า 1,000 ปี หากภายหลังการล่มสลายของราชวงศ์ถังความสำคัญของเมืองนี้เริ่มลดลงเรื่อยๆ อย่างไรก็ดีในปีค.ศ.1936 เรื่องราวครั้งประวัติศาสตร์ได้เกิดขึ้นที่นี่ นายพลผู้นำกองทหารก๊กมินตั้งสองนายได้ทำการลักพาตัวเจียงไคเช็คมาไว้ที่นี่เพื่อบีบบังคับให้ยอมร่วมมือกับกลุ่มลัทธิคอมมิวนิสต์ในการต่อสู้กับกองทัพญี่ปุ่นซึ่งรุกรานจีนในขณะนั้น “Xi’an Incident” เป็นเหตุการณ์ที่พลิกผันประวัติศาสตร์จีน และทำให้ฝ่ายคอมมิวนิสต์ก้าวเข้ามาเป็นผู้กุมทาศทางของชาติจีน
ในช่วงปัจจุบัน ซีอานเป็นเมืองอุตสาหกรรมยุคใหม่ที่ขึ้นชื่อในด้านการบินและสิ่งทอ และยังมีมหาวิทยาลัยและสถาบันค้นคว้าอยู่หลายแห่ง มีประชากรประมาณ 3 ล้านคน และเป็นจุดกำเนิดสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางสู่พื้นที่ตอนในของประเทศจีน อดีตราชธานีของประเทศจีนแห่งนี้มีเส้นทางที่ราบรื่นเชื่อมต่อกับเมืองสำคัญอื่นๆมากมายเที่ยวบินโดยตรงจากกรุงปักกิ่งใช้เวลาสัญจรเพียง 2 ชั่วโมง ในขณะที่เส้นทางรถไฟซึ่งเป็นระยะทาง 725 ไมล์(1,165 กิโลเมตร) กินเวลาประมาณ 24ชั่วโมง
สภาพภูมิอากาศของซีอานไม่รุนแรงนัก หากมีความเหลื่อมล้ำของอุณหภูมิสูงมากในฤดูกาลที่ต่างกัน ฤดูหนาวไม่หนาวจัด หากฤดูร้อนอาจมีอุณหภูมิสูงได้ถึง 30 องศาเซลเซียส ในช่วงต้นฤดูใบผลิและฤดูใบไม้ร่วงอากาศค่อนข้างเย็นสบาย หน้าฝนอยู่ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม ในช่วงหน้าฝนนี้จึงเป็นช่วงที่เที่ยวบินเกิดการล่าช้าบ่อยมาก คาดกันว่าท่าอากาศยานนานาประเทศซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้างจะช่วยแก้ปัญหาการจราจรในลานบินจากจำนวนเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆได้เมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์
ถึงแม้ว่าที่นี่จะมีอาคารบ้านเรือนตามสมัยนิยม ย่านเมืองใหม่และถนนใหม่เป็นจำนวนมาก ศูนย์กลางเมืองซีอานยังคงเป็นอย่างผังเมืองเดิมที่มาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังในยุคนั้น นครแห่งนี้มีความยาวกว่า 5.5 ไมล์ (9 กิโลเมตร) จากตะวันออกถึงตะวันตก และกว่าง 4.5 ไมล์ (7.5 กิโลเมตร) จากเหนือจรดใต้และตั้งอยู่ในเขตกำแพงเมืองขนาดใหญ่ ถนนทุกสายทอดตัวตามแนวเหนือใต้หรือตะวันออกตะวันตก และตัดกันเป็นเส้นตั้งฉาก ซึ่งยังคงเห็นได้ในปัจจุบันนี้
ที่มา : http://merrybrighttravel.com
เมืองซีอันนครหลวงของมณฑลชาอันซี ตั้งอยู่ในหุบเขาฝั่งแม่น้ำเว่ย (Wei) ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่แม่น้ำเว่ยและแม่น้ำเหลืองบรรจบกันเพียงไม่กี่สิบไมล์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้มีการขุดค้นทางโบราณคดีที่สำคัญในเขตลุ่มแม่น้ำเว่ยนี้ ที่นี่เป็นที่ซึ่งจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ ปฐมจักรพรรดิของเมืองจีนได้ทรงรวบรวมแผ่นดิน ปฐมจักรพรรดิของเมืองจีนได้ทรงรวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็นหนึ่งเดียวได้เป็นครั้งแรกในสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ.618-907) เมืองซีอานซึ่งในยุคนั้น มีชื่อว่าฉานอาง (Chang’an แปลว่า สันติภาพสวรรค์) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีเส้นทางสายไหมเป็นเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงกับเมืองต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียกลางและทวีปยุโรป และเป็นเมืองที่มีพ่อค้าชาวต่างชาติอาศัยอยู่เป็นจำนวนนับพันคน
ซีอันเป็นราชธานีของราชวงศ์จีน 11 ราชวงศ์อยู่กว่า 1,000 ปี หากภายหลังการล่มสลายของราชวงศ์ถังความสำคัญของเมืองนี้เริ่มลดลงเรื่อยๆ อย่างไรก็ดีในปีค.ศ.1936 เรื่องราวครั้งประวัติศาสตร์ได้เกิดขึ้นที่นี่ นายพลผู้นำกองทหารก๊กมินตั้งสองนายได้ทำการลักพาตัวเจียงไคเช็คมาไว้ที่นี่เพื่อบีบบังคับให้ยอมร่วมมือกับกลุ่มลัทธิคอมมิวนิสต์ในการต่อสู้กับกองทัพญี่ปุ่นซึ่งรุกรานจีนในขณะนั้น “Xi’an Incident” เป็นเหตุการณ์ที่พลิกผันประวัติศาสตร์จีน และทำให้ฝ่ายคอมมิวนิสต์ก้าวเข้ามาเป็นผู้กุมทาศทางของชาติจีน
ในช่วงปัจจุบัน ซีอานเป็นเมืองอุตสาหกรรมยุคใหม่ที่ขึ้นชื่อในด้านการบินและสิ่งทอ และยังมีมหาวิทยาลัยและสถาบันค้นคว้าอยู่หลายแห่ง มีประชากรประมาณ 3 ล้านคน และเป็นจุดกำเนิดสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางสู่พื้นที่ตอนในของประเทศจีน อดีตราชธานีของประเทศจีนแห่งนี้มีเส้นทางที่ราบรื่นเชื่อมต่อกับเมืองสำคัญอื่นๆมากมายเที่ยวบินโดยตรงจากกรุงปักกิ่งใช้เวลาสัญจรเพียง 2 ชั่วโมง ในขณะที่เส้นทางรถไฟซึ่งเป็นระยะทาง 725 ไมล์(1,165 กิโลเมตร) กินเวลาประมาณ 24ชั่วโมง
สภาพภูมิอากาศของซีอานไม่รุนแรงนัก หากมีความเหลื่อมล้ำของอุณหภูมิสูงมากในฤดูกาลที่ต่างกัน ฤดูหนาวไม่หนาวจัด หากฤดูร้อนอาจมีอุณหภูมิสูงได้ถึง 30 องศาเซลเซียส ในช่วงต้นฤดูใบผลิและฤดูใบไม้ร่วงอากาศค่อนข้างเย็นสบาย หน้าฝนอยู่ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม ในช่วงหน้าฝนนี้จึงเป็นช่วงที่เที่ยวบินเกิดการล่าช้าบ่อยมาก คาดกันว่าท่าอากาศยานนานาประเทศซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้างจะช่วยแก้ปัญหาการจราจรในลานบินจากจำนวนเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆได้เมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์
ถึงแม้ว่าที่นี่จะมีอาคารบ้านเรือนตามสมัยนิยม ย่านเมืองใหม่และถนนใหม่เป็นจำนวนมาก ศูนย์กลางเมืองซีอานยังคงเป็นอย่างผังเมืองเดิมที่มาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังในยุคนั้น นครแห่งนี้มีความยาวกว่า 5.5 ไมล์ (9 กิโลเมตร) จากตะวันออกถึงตะวันตก และกว่าง 4.5 ไมล์ (7.5 กิโลเมตร) จากเหนือจรดใต้และตั้งอยู่ในเขตกำแพงเมืองขนาดใหญ่ ถนนทุกสายทอดตัวตามแนวเหนือใต้หรือตะวันออกตะวันตก และตัดกันเป็นเส้นตั้งฉาก ซึ่งยังคงเห็นได้ในปัจจุบันนี้
ที่มา : http://merrybrighttravel.com
ตงเป่ยตัวเมืองที่หนาวทางภาคเหนือของกรุงปักกิ่ง
ตงเป่ยเมืองที่เย็นทางตอนเหนือของกรุงปักกิ่ง
พื้นที่ทางตอนเหนือของกรุงปักกิ่งคือเขตที่ราบทางเหนือ (North China Plain) อันอุดมในเขตมณฑลเหลี่ยวหนิง (Liaoning) มณฑลจิหลิน (Jilin) และมณฑลเอยหลงเจียง (Heilongjiang) เขตแห่งนี้มีพรมแดนทางทิศประจิมคือเขตทุ่งหญ้าสเต็ปแห่งมองโกเลีย และพรมแดนทางทิศประจิมคือคาบสมุทรเกาหลี ชื่อเดิมของเขตนี้คือแมนจูเรีย (Manchuria) ในสมัยราชวงศ์ชิงที่ชาวแมนจูมีอำนาจในราชบัลลังค์จีน ชาวฮั่นถูกกีดกันไม่ให้เข้ามาตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ ข้อบังคับนี้มีผลถึงกลางศตวรรษที่แล้วเนื่องด้วยความกดดันจากจำนวนประชาชนพลเมืองที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และความโกลาหลอันเกิดจากกบฏไท่ผิง (1850-1864) ส่งผลให้เกิดการอพยพย้ายถิ่นฐานของคนจีนฮั่นเข้ามาพื้นที่นี้ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นได้พยายามแยกดินแดนแห่งนี้ออกจากการครอบครองของเมืองจีน โดยตั้งคณะรัฐบาลหุ่นเชิดที่มีปูยีจักรพรรดิองค์สุดท้ายของเมืองจีนเป็นผู้นำ ปัจจุบันตงเป่ยมีประชากรประมาณ 100 ล้านคน
คุณสามรถเดินทางจากกรุงปักกิ่งไปยังตงเป่ยได้โดยใช้เส้นทางรถไฟทรานส์-ไซบีเรีย (trans-Siberia Railway) รถไฟสายนี้เส้นที่ผ่านเมืองฉางชุน (Changchun) วิ่งเข้าสู่เมืองจิหลิน (Jilin) และเมืองฮาร์บิ้น (Harbin) ในขณะที่เส้นทางผ่านเมืองชิชิฮาร์ (Qiqihair) จะตัดไปยังเมืองไฮลาร์ (Hailar) และเมืองมันโจวหลี่ (Manzhouli) ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านของประเทศจีนก่อนเข้าสู่เขตแดนของสหภาพโซเวียต เมืองเซินหยาง (Shenyang) นครหลวงของมณฑลเหลี่ยวหนิง อยู่ห่างจากปักกิ่งไป 520 ไมล์ (840 กิโลเมตร) และใช้เวลาแรมรอนประมาณ12 ชั่วโมง โดยรถด่วนแต่ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่งโดยทางอากาศ เส้นทางรถไฟนี้วิ่งขนานชายฝั่งของทะเลป๋อไห่ (Bohai) เป็นช่วงยาวโดยผ่าน เมืองเป่ยไดเหอ (Beidaihe) เมืองพักผ่อนชายทะเล และเมือง ซิงเชิง (Xingcheng) ซึ่งเป็นเมืองพักผ่อนตากอากาศอีกแห่งและเป็นเมืองเก่าแก่มีมาแต่สมัยราชวงศ์หมิง ช่วงเวลาที่ดีที่สุดหากต้องการเดินทางไปยังเมืองเซินหยางและเมืองอื่นๆในอีสานของเมืองจีนคือในช่วงหน้าร้อน เนื่องจากมีฤดูหนาวซึ่งกินเวลาช้านานมีความหนาวเย็นมากในปัจจุบันเซินหยางมีประชาชนพลเมือง 4.5 ล้านคน และมีชื่อในภาษาแมนจูว่า มุคเดน (Mukden) เมืองเซินหยางเป็นเมืองชุมทางของเส้นทางคมนาคมสายต่างๆ ในเขตตะวันออกเฉียงเหนือของจัน และเป็นเมืองอุตสาหรรมที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของดินแดนที่มีความเป็นมาอันยาวนาน สมัยราชวงศ์ซ้องเมืองนี้กลายเป็นเมืองจุดรวมการแลกเปลี่ยนซื้อขายปศุสัตว์ซึ่งหมู่ชนเร่ร่อนเป็นผู้เพาะพันธุ์และนำมาขายในสมัยราชวงศ์ชิงของชาวแมนจู ทุกวันนี้ชาวแมนจูกว่าครึ่งหนึ่งของชาวแมนจูทั้งหมดในจีนอาศัยอยู่ในมณฑลนี้ ชาวแมนจูไม่ได้รับสิทธิในฐานะชนหมู่น้อยจวบจน ค.ศ.1970 เนื่องจากถือกันว่าเป็นกลุ่มชนเดียวกับชนกลุ่มใหญ่ของประเทศ มณฑลเหลี่ยวหนิงมีหน่วยดูแลตนเองอยู่หลายแห่ง ซึ่งโดยมากเป็นหน่วยปกครองตนเองของชาวแมนจู ซึ่งมีการจัดแสดงแบบท้องถิ่นให้คนต่างประเทศที่เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวเข้าชม พิพิธภัณฑ์ศิลปะและธรรมเนียมปฏิบัติแมนจู (Museum of Manchu Art and Culture)
ที่มา : http://merrybrighttravel.com/TourChina.html
พื้นที่ทางตอนเหนือของกรุงปักกิ่งคือเขตที่ราบทางเหนือ (North China Plain) อันอุดมในเขตมณฑลเหลี่ยวหนิง (Liaoning) มณฑลจิหลิน (Jilin) และมณฑลเอยหลงเจียง (Heilongjiang) เขตแห่งนี้มีพรมแดนทางทิศประจิมคือเขตทุ่งหญ้าสเต็ปแห่งมองโกเลีย และพรมแดนทางทิศประจิมคือคาบสมุทรเกาหลี ชื่อเดิมของเขตนี้คือแมนจูเรีย (Manchuria) ในสมัยราชวงศ์ชิงที่ชาวแมนจูมีอำนาจในราชบัลลังค์จีน ชาวฮั่นถูกกีดกันไม่ให้เข้ามาตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ ข้อบังคับนี้มีผลถึงกลางศตวรรษที่แล้วเนื่องด้วยความกดดันจากจำนวนประชาชนพลเมืองที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และความโกลาหลอันเกิดจากกบฏไท่ผิง (1850-1864) ส่งผลให้เกิดการอพยพย้ายถิ่นฐานของคนจีนฮั่นเข้ามาพื้นที่นี้ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นได้พยายามแยกดินแดนแห่งนี้ออกจากการครอบครองของเมืองจีน โดยตั้งคณะรัฐบาลหุ่นเชิดที่มีปูยีจักรพรรดิองค์สุดท้ายของเมืองจีนเป็นผู้นำ ปัจจุบันตงเป่ยมีประชากรประมาณ 100 ล้านคน
คุณสามรถเดินทางจากกรุงปักกิ่งไปยังตงเป่ยได้โดยใช้เส้นทางรถไฟทรานส์-ไซบีเรีย (trans-Siberia Railway) รถไฟสายนี้เส้นที่ผ่านเมืองฉางชุน (Changchun) วิ่งเข้าสู่เมืองจิหลิน (Jilin) และเมืองฮาร์บิ้น (Harbin) ในขณะที่เส้นทางผ่านเมืองชิชิฮาร์ (Qiqihair) จะตัดไปยังเมืองไฮลาร์ (Hailar) และเมืองมันโจวหลี่ (Manzhouli) ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านของประเทศจีนก่อนเข้าสู่เขตแดนของสหภาพโซเวียต เมืองเซินหยาง (Shenyang) นครหลวงของมณฑลเหลี่ยวหนิง อยู่ห่างจากปักกิ่งไป 520 ไมล์ (840 กิโลเมตร) และใช้เวลาแรมรอนประมาณ12 ชั่วโมง โดยรถด่วนแต่ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่งโดยทางอากาศ เส้นทางรถไฟนี้วิ่งขนานชายฝั่งของทะเลป๋อไห่ (Bohai) เป็นช่วงยาวโดยผ่าน เมืองเป่ยไดเหอ (Beidaihe) เมืองพักผ่อนชายทะเล และเมือง ซิงเชิง (Xingcheng) ซึ่งเป็นเมืองพักผ่อนตากอากาศอีกแห่งและเป็นเมืองเก่าแก่มีมาแต่สมัยราชวงศ์หมิง ช่วงเวลาที่ดีที่สุดหากต้องการเดินทางไปยังเมืองเซินหยางและเมืองอื่นๆในอีสานของเมืองจีนคือในช่วงหน้าร้อน เนื่องจากมีฤดูหนาวซึ่งกินเวลาช้านานมีความหนาวเย็นมากในปัจจุบันเซินหยางมีประชาชนพลเมือง 4.5 ล้านคน และมีชื่อในภาษาแมนจูว่า มุคเดน (Mukden) เมืองเซินหยางเป็นเมืองชุมทางของเส้นทางคมนาคมสายต่างๆ ในเขตตะวันออกเฉียงเหนือของจัน และเป็นเมืองอุตสาหรรมที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของดินแดนที่มีความเป็นมาอันยาวนาน สมัยราชวงศ์ซ้องเมืองนี้กลายเป็นเมืองจุดรวมการแลกเปลี่ยนซื้อขายปศุสัตว์ซึ่งหมู่ชนเร่ร่อนเป็นผู้เพาะพันธุ์และนำมาขายในสมัยราชวงศ์ชิงของชาวแมนจู ทุกวันนี้ชาวแมนจูกว่าครึ่งหนึ่งของชาวแมนจูทั้งหมดในจีนอาศัยอยู่ในมณฑลนี้ ชาวแมนจูไม่ได้รับสิทธิในฐานะชนหมู่น้อยจวบจน ค.ศ.1970 เนื่องจากถือกันว่าเป็นกลุ่มชนเดียวกับชนกลุ่มใหญ่ของประเทศ มณฑลเหลี่ยวหนิงมีหน่วยดูแลตนเองอยู่หลายแห่ง ซึ่งโดยมากเป็นหน่วยปกครองตนเองของชาวแมนจู ซึ่งมีการจัดแสดงแบบท้องถิ่นให้คนต่างประเทศที่เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวเข้าชม พิพิธภัณฑ์ศิลปะและธรรมเนียมปฏิบัติแมนจู (Museum of Manchu Art and Culture)
ที่มา : http://merrybrighttravel.com/TourChina.html
ฮวงซุ้ยราชวงศ์หมิง หลุมฝังศพของจักรพรรดิหมิง13 พระองค์
ที่ปลงศพของจักรพรรดิหมิง13 พระองค์
ปกติผู้ที่เดินทางไปปาตาหลิง มักเดินทางไป หลุมฝังศพราชวงศ์หมิง (Ming tombs) ในคราวเดียวกันที่ฝังศพนี้ตั้งอยู่ในแนวบังของเทือกเขาทางเหนือ ตะวันออกและทิศตะวันตก และเป็นป่าช้าของจักรพรรดิหมิง13 พระองค์จากทั้งหมด 16 พระองค์ ผังสุสานนี้สร้างตามแนวคิดประเทศจีนดั้งเดิมเช่นเดียวกับลักษณะผังของเมืองปักกิ่งในสมัยโบราณ ที่อาศัยลักษณะของเทพนิรมิตเป็นหลักในการจัดวางสิ่งก่อสร้าง หากคุณเดินทางมาจากทางทิศใต้ คุณจะผ่านประตูเกียรติยศหลายแห่งตลอดพื้นที่หุบเขาที่เป็นที่ตั้งของฮวงซุ้ย เส้นทางนี้เรียกว่า เส้นทางวิญญาณ (Soul Paths หรือ เซินเต้า Shendoa) ซึ่งมียามแห่งเกียรติยศเป็นผู้เฝ้าตลอดเส้นทางนี้สองฝั่งฟาก ยามแห่งเกียรติยศรูปมนุษย์ 12 รูปเป็นสัญญาณแทนข้าราชการและทหาร ส่วนอีก 24 รูปคือ สิงโต ม้า อูฐ ช้าง และสัตว์ในพงศาวดาร
สุสานสองแห่งจากทั้งหมด 13 แห่งเปิดให้หมู่ชนเข้าชม สุสานจางหลิง (Changling Tomb) เป็นหลุมฝังศพของจักรพรรดิหย่งเล่อ หลุมฝังศพนี้ยังมิได้มีการขุดค้นแต่อย่างใด และมีโถงบูชาที่งดงามมากหนึ่งแห่งช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 ในยุคของพระราชาธิราชหย่งเล่อ การบูชายัญมนุษย์เป็นเรื่องที่ไม่แปลกแต่อย่างไร นางห้ามสิบแปดนางของพระองค์จึงติดตามจักรพรรดิสู่โลกหน้า หากในรัชกาลจักรพรรดิว่านลี่ (ค.ศ.1573-1620) ขนบธรรมเนียมการฝังเป็นก็หมดไป ดังนั้นผู้ที่มาท่องเที่ยวชมหลุมฝังศพจักรพรรดิว่านลี่ซึ่งมีความลึก 89 ฟุต (27 เมตร) แห่งนี้ก็ไม่ต้องหวาดผวากลัวภูตผีของผู้หญิงที่ถูกฝังทั้งเป็น ทางเข้าป่าช้าของจักรพรรดิว่านลี่หรือที่เรียกว่า ตงหลิง (Dingling) ถูกค้นหาเป็นเวลาหลายปีอย่างไร้ผลแต่ในที่สุดในปี ค.ค 1957 ก็ได้มีการพบทางเข้านี้พระมเหสีและนางสนมอย่างละหนึ่งนางของพระองค์ถูกฝังอยู่กับองค์จักรพรรดิ ที่มา http://merrybrighttravel.com/TourChina.html
ปกติผู้ที่เดินทางไปปาตาหลิง มักเดินทางไป หลุมฝังศพราชวงศ์หมิง (Ming tombs) ในคราวเดียวกันที่ฝังศพนี้ตั้งอยู่ในแนวบังของเทือกเขาทางเหนือ ตะวันออกและทิศตะวันตก และเป็นป่าช้าของจักรพรรดิหมิง13 พระองค์จากทั้งหมด 16 พระองค์ ผังสุสานนี้สร้างตามแนวคิดประเทศจีนดั้งเดิมเช่นเดียวกับลักษณะผังของเมืองปักกิ่งในสมัยโบราณ ที่อาศัยลักษณะของเทพนิรมิตเป็นหลักในการจัดวางสิ่งก่อสร้าง หากคุณเดินทางมาจากทางทิศใต้ คุณจะผ่านประตูเกียรติยศหลายแห่งตลอดพื้นที่หุบเขาที่เป็นที่ตั้งของฮวงซุ้ย เส้นทางนี้เรียกว่า เส้นทางวิญญาณ (Soul Paths หรือ เซินเต้า Shendoa) ซึ่งมียามแห่งเกียรติยศเป็นผู้เฝ้าตลอดเส้นทางนี้สองฝั่งฟาก ยามแห่งเกียรติยศรูปมนุษย์ 12 รูปเป็นสัญญาณแทนข้าราชการและทหาร ส่วนอีก 24 รูปคือ สิงโต ม้า อูฐ ช้าง และสัตว์ในพงศาวดาร
สุสานสองแห่งจากทั้งหมด 13 แห่งเปิดให้หมู่ชนเข้าชม สุสานจางหลิง (Changling Tomb) เป็นหลุมฝังศพของจักรพรรดิหย่งเล่อ หลุมฝังศพนี้ยังมิได้มีการขุดค้นแต่อย่างใด และมีโถงบูชาที่งดงามมากหนึ่งแห่งช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 ในยุคของพระราชาธิราชหย่งเล่อ การบูชายัญมนุษย์เป็นเรื่องที่ไม่แปลกแต่อย่างไร นางห้ามสิบแปดนางของพระองค์จึงติดตามจักรพรรดิสู่โลกหน้า หากในรัชกาลจักรพรรดิว่านลี่ (ค.ศ.1573-1620) ขนบธรรมเนียมการฝังเป็นก็หมดไป ดังนั้นผู้ที่มาท่องเที่ยวชมหลุมฝังศพจักรพรรดิว่านลี่ซึ่งมีความลึก 89 ฟุต (27 เมตร) แห่งนี้ก็ไม่ต้องหวาดผวากลัวภูตผีของผู้หญิงที่ถูกฝังทั้งเป็น ทางเข้าป่าช้าของจักรพรรดิว่านลี่หรือที่เรียกว่า ตงหลิง (Dingling) ถูกค้นหาเป็นเวลาหลายปีอย่างไร้ผลแต่ในที่สุดในปี ค.ค 1957 ก็ได้มีการพบทางเข้านี้พระมเหสีและนางสนมอย่างละหนึ่งนางของพระองค์ถูกฝังอยู่กับองค์จักรพรรดิ ที่มา http://merrybrighttravel.com/TourChina.html
Google Webmaster Tools สำคัญใช่ไหม?
หากถามว่า Google Webmaster Tools ยิ่งใหญ่หรือไม่? ผมให้คำตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับรสนิยมส่วนตัว ในหัวข้อนี้ผมกำลังจะชี้ให้เห็นว่าwebsiteไซต์หลายล้านwebsiteไม่ได้ใช้งาน Google Webmaster Tools ทั้งหมดแต่ Google ก็ Index websiteเหล่านั้นเพียงเพราะว่ามันมีคุณลักษณะ(quality) และเป็นเนื้อหาที่มีประโยชน์นั่นเอง แล้วเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับผู้พัฒนาwebsiteนี้มีข้อดีอย่างไร สิ่งที่ดีคือ เราสามารถจะ Optimize และทราบเรื่องเบ็ดเตล็ดต่างๆ ของwebsiteเราว่ามีจุดไหนที่ต้องปรับและแก้ไข รวมทั้งยังสามารถมอนิเตอร์websiteได้ นอกจากนี้หากwebsiteติดไวรัสก็สามารถส่ง Report ให้ทาง Google ตรวจและพิจารณาใหม่ได้ ผมแนะนำว่าเหมาะกับการใช้งานกับwebsiteหลัก หากเป็นwebsiteใน Network(เน็ตเวิร์ค) ที่มีขนาดwebsiteจำนวนมากสำหรับผมไม่ได้ใช้เครื่องมือนี้ เหตุเพราะผมต้องการประหยัดเวลา และเอาเวลาไปพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพ(quality)ของสาระสำคัญแทน หากwebsiteในเน็ตเวิร์ดมีคุณภาพ(quality)ก็ไม่ต้องกลัวว่าบอท (google bot)จะไม่มาเก็บข้อมูล มอบสาระสำคัญที่ดีให้ Google แล้ว Google จะมอบอันดับ(Ranking)websiteที่ดีให้กับคุณ
ชม ฟูจิยาม่า ภูเขาไฟที่สวยที่สุดในโลก
ไปเที่ยวญี่ปุ่น ไม่ว่าใครก็คงทราบคร่าวๆ แล้วว่าสถานที่ 2 แห่งที่พลาดไม่ได้คือ ฮากอนเน่ และ คามามูร่า อันเปรียบเสมือนเมืองหลัก เพราะฟูจิยาม่า และ พระใหญ่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ ของ แดนอาทิตย์อุทัย จะพบได้ที่ 2 เมืองนี้ และผมก็โชคดีมีข้อมูลเป็นเอกสาร แต่ก็อย่างว่าประสาผมนี่แหละครับ ดูแค่ผ่าน จำได้แค่หัวข้อ แล้วก็ไม่เค้ยไม่เคยตั้งใจอ่านรายละเอียดให้ถ่องแท้เลย จัดใส่กระเป๋าเข้ากับเอกสารอื่นๆ จนกระทั่งได้เวลาที่ตัดสินใจว่าจะไปแล้วนั่นแหละ ถึงค่อยหยิบมาดูอย่างคร่าวๆ แต่เจ้าสามัญสำนึกที่ใช้ได้ดีกับทุกที่ ดูเหมือนจะใช้กับญี่ปุ่นไม่ได้เลย เพราะตอนนั้นผมยังไม่ได้เริ่มใช้ เจอาร์พาส จึงยังไม่เคยเหนอิทธิฤทธิ์ของเจ้า เจอาร์พาส ให้ตระหนักว่า เรื่องส่งเสริมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นนี่ เค้าทุ่มทุนสร้างแบบไม่คิดถึง ต้นทุน-กำไร แบบเกินคาดคิดจริงๆ ก็คิดดูง่ายๆ สิครับว่า Fuji Hakone Pass ที่พาดหัวตัวโตว่า สะดวก ไม่แพง และคุ้มค่า ราคาคนละ 7,200 เยน นั้นใช้ได้ 3 วัน กับยานพาหนะทุกอย่าง ดังรายการข้างต้น ก็ในเมื่อเราจะไปเที่ยวแค่วันเดียว ไปกลับ หลับตาคิด ก็ต้องคิดออกว่า จะซื้อไปทำไม ? ยังไงก็ไม่คุ้ม จริงไหมครับ ? อีกอย่างก็มี เจอาร์พาส ด้วยจุดอื่นๆ ที่ต้องเสียตังค์ ก็คงไม่เท่าไหร่หรอก ... ยังมีทางเลือกอื่นที่สะดวกกว่า คุ้มกว่า ถูกกว่า ราคา 7,200 เยน ที่ว่านี้หรือปล่าว ? มาทราบทีหลังว่ามี พาส เป็นทางเลือกอีกหลายแบบ อาทิ Hakone Free Pass 2 วัน 5,000 เยน (ลดเหลือเพียง 3,900 เยน ถ้ามี เจอาร์พาส และซื้อที่ โอดาวาร่า ครับ)
ขอขอคุณบทความดีๆจาก http://merrybrighttravel.com/TourJapan.html
ขอขอคุณบทความดีๆจาก http://merrybrighttravel.com/TourJapan.html
ออนเซน อาบน้ำแร่ แช่น้ำร้อนแบบญี่ปุ่น
ออนเซน อาบน้ำแร่ แช่น้ำร้อนแบบญี่ปุ่น
หมายถึงการอาบน้ำแร่ แช่น้ำร้อนแบบญี่ปุ่น ซึ่งมีวัตรปฏิบัติที่ถือตามกันมากกว่า 2,000 ปี โดยจะแบ่งฝ่ายหญิง และชายออกจากกัน ออนเซนในประเทศญี่ปุ่นโด่งดังมากและเป็นแรงดึงดูดอันสำคัญยิ่งต่อการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น จึงไม่น่าแปลกในนัก หากว่าทั้งประเทศ มีบริการนี้อยู่นับหมื่นๆ จุด
ออนเซ็น ไม่ว่าจะแบบ Indoor หรือ Outdoor ก็จะปฏิบัติคล้ายๆ กัน คือทุกๆ คนจะไม่สวมเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว มีเพียงผ้าขนหนูผืนเล็กๆ ที่เอาไว้ซับเนื้อตัวเวลาอาบ จากการวิจัยพบว่า สาเหตุที่คนนิยมกันมาก ก็เนื่องจากต้องการจะหลีกหนีและ ผ่อนคลายตัวเองจากความวุ่นวาย ความอึกทึกครึกโครมจากในเมืองหลวง และกลับสู่ธรรมชาติโดยไม่มีอะไรมาขวางกั้น เชื่อกันว่า น้ำแร่ ที่อาบกันในออนเซ็นนั้น มีพลังในการช่วยฟื้นฟูสภาพผิว และรักษาอาการเมื่อยล้าได้
ค่าบริการของออนเซ็นมีตั้งแต่ 1,000 เยนถึง 20,000 เยน ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับประเภท ความหรูหรา และบรรยากาศ
ขอขอคุณบทความดีๆจาก http://merrybrighttravel.com/TourJapan.html
หมายถึงการอาบน้ำแร่ แช่น้ำร้อนแบบญี่ปุ่น ซึ่งมีวัตรปฏิบัติที่ถือตามกันมากกว่า 2,000 ปี โดยจะแบ่งฝ่ายหญิง และชายออกจากกัน ออนเซนในประเทศญี่ปุ่นโด่งดังมากและเป็นแรงดึงดูดอันสำคัญยิ่งต่อการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น จึงไม่น่าแปลกในนัก หากว่าทั้งประเทศ มีบริการนี้อยู่นับหมื่นๆ จุด
ออนเซ็น ไม่ว่าจะแบบ Indoor หรือ Outdoor ก็จะปฏิบัติคล้ายๆ กัน คือทุกๆ คนจะไม่สวมเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว มีเพียงผ้าขนหนูผืนเล็กๆ ที่เอาไว้ซับเนื้อตัวเวลาอาบ จากการวิจัยพบว่า สาเหตุที่คนนิยมกันมาก ก็เนื่องจากต้องการจะหลีกหนีและ ผ่อนคลายตัวเองจากความวุ่นวาย ความอึกทึกครึกโครมจากในเมืองหลวง และกลับสู่ธรรมชาติโดยไม่มีอะไรมาขวางกั้น เชื่อกันว่า น้ำแร่ ที่อาบกันในออนเซ็นนั้น มีพลังในการช่วยฟื้นฟูสภาพผิว และรักษาอาการเมื่อยล้าได้
ค่าบริการของออนเซ็นมีตั้งแต่ 1,000 เยนถึง 20,000 เยน ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับประเภท ความหรูหรา และบรรยากาศ
ขอขอคุณบทความดีๆจาก http://merrybrighttravel.com/TourJapan.html
ปักกิ่ง นครหลวงแห่งอุดรทิศ ในประเทศจีน
ตามทฤษฎีของจีนแบบดั้งเดิม โลกมิได้เป็นพื้นแผ่นดินแบบกลมอย่างความเชื่อในตะวันตกของเทอเลมิ (Ptolemy) หากเชื่อว่าโลกมีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมด้านเท่าเมืองของจีน โดยเฉพาะเมืองหลวงจึงต้องมีรูปแบบเป็นทรงจัตุรัสเพื่อให้สดคล้องกับแบบแผนที่มีอยู่ของจักรวาล นครปักกิ่งโบราณจึงเป็นเมืองที่มีแนวความคิดนี้ปรากฎเด่นชัดในผังเมืองมากกว่าเมืองใดๆ ในสาธารณรัฐประชาชนจีน
พื้นที่รอบเมืองปักกิ่งเป็นที่ตั้งหลักแหล่งของประชาชนมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ได้มีการค้นพบกะโหลกมนุษย์ปักกิ่ง (Sinanothropus pekinenes) ที่หมู่บ้านโจวโข่วเตี้ยน (Zhoukoudian) เป็นข้อพิสูจน์พิสูจน์ข้อเท็จจริงนี้ นับแต่ ค.ศ.1000 เป็นต้นมา นครแห่งนี้ได้ทำหน้าที่เป็นพระราชฐานหลักและรองของหลายราชวงศ์ ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 ในรัชกาลของจักรพรรดิกุบไลข่านแห่งราชวงศ์มองโกลเมืองแห่งนี้ได้ชื่อว่าเมืองคานบาลิค (Khanbaliq ซึ่งแปลว่าเมืองของท่านข่าน) และมีความก้าวหน้าเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในฐานะพระราฐานหน้าหนาวของจักรพรรดิหลายพระองค์
จักรพรรดิหย่งเล่อเป็นนักออกแบบและผู้วางผังเมืองในปี ค.ศ.1421 พระองค์ได้ทรงย้ายฐานราชการจาดเมืองหนานจิงมายัง เมืองเป่ยผิง (Beiping ซึ่งแปลว่าสันติภาพแห่งอุดรทิศ) ซึ่งในที่สุดได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นเป่ยจิง (Beijing ซึ่งแปลว่าเมืองหลวงแห่งอุดรทิศ) แต่เมืองนี้มีชื่อเรียกต่างๆกันไปในเมืองนอก เช่นในประเทศไทยเรียกว่าปักกิ่ง และในประเทศตะวันตกในยุคก่อนเรียกว่า เพกิ่ง (Peking)
หย่งเล่อจักรพรรดิหมิงพระองค์ที่ 3 ได้วางแผนสร้างเมืองตามรูปแบบการทำนายแบบเก่าแก่ ซึ่งใช้ดินทรายโปรยลงบนพื้นเพื่อตีความหมาย การทำนายนี้ตั้งอยู่บนหลักการของ “ลมและน้ำ” ซึ่งหมายจะให้เกิดความเสมอภาค กลมกลืนระหว่างชีวิตมนุษย์และธรรมชาติ เมืองปักกิ่งตั้งอยู่บนที่ราบซึ่งเปิดลงไปทางใต้ และอยู่ใต้เขาน้อยใหญ่ที่วางตัวเป็นครึ่งวงกลมทางอุตดร ผังเมืองของที่นี่จึงมีอาคารต่างๆ หันหน้าไปทางทิศใต้เช่นเดียวกับลักษณะทำเลของเมือง ทั้งนี้เพื่อป้องกันพลังหยิน เช่น ลมเย็นจากไซบีเรียหรือข้าศึกศัตรูจากทุ่งหญ้าสเต็ปป์ ส่วนทางด้านใต้เปิดรับพลังอบอุ่นของหยาง ดังนั้นการที่ประตูเซี่ยนเหมินซึ่งเป็นประตูเมืองทางทิศใต้มีความสวยสง่า ขนาดและความขลังมากที่สุดจึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เขาถ่านหิน (หรือจิงซาน Jingshan) ทางตอนเหนือของพระราชวังเป็นจุดที่มีลมฟ้าอากาศโปร่งสบายและสามารถมองลงมาเห็นเมืองปักกิ่งได้ทั้งหมด สนใจทัวร์จีน ติดต่อ>>> http://merrybrighttravel.com/TourChina.html
พื้นที่รอบเมืองปักกิ่งเป็นที่ตั้งหลักแหล่งของประชาชนมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ได้มีการค้นพบกะโหลกมนุษย์ปักกิ่ง (Sinanothropus pekinenes) ที่หมู่บ้านโจวโข่วเตี้ยน (Zhoukoudian) เป็นข้อพิสูจน์พิสูจน์ข้อเท็จจริงนี้ นับแต่ ค.ศ.1000 เป็นต้นมา นครแห่งนี้ได้ทำหน้าที่เป็นพระราชฐานหลักและรองของหลายราชวงศ์ ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 ในรัชกาลของจักรพรรดิกุบไลข่านแห่งราชวงศ์มองโกลเมืองแห่งนี้ได้ชื่อว่าเมืองคานบาลิค (Khanbaliq ซึ่งแปลว่าเมืองของท่านข่าน) และมีความก้าวหน้าเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในฐานะพระราฐานหน้าหนาวของจักรพรรดิหลายพระองค์
จักรพรรดิหย่งเล่อเป็นนักออกแบบและผู้วางผังเมืองในปี ค.ศ.1421 พระองค์ได้ทรงย้ายฐานราชการจาดเมืองหนานจิงมายัง เมืองเป่ยผิง (Beiping ซึ่งแปลว่าสันติภาพแห่งอุดรทิศ) ซึ่งในที่สุดได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นเป่ยจิง (Beijing ซึ่งแปลว่าเมืองหลวงแห่งอุดรทิศ) แต่เมืองนี้มีชื่อเรียกต่างๆกันไปในเมืองนอก เช่นในประเทศไทยเรียกว่าปักกิ่ง และในประเทศตะวันตกในยุคก่อนเรียกว่า เพกิ่ง (Peking)
หย่งเล่อจักรพรรดิหมิงพระองค์ที่ 3 ได้วางแผนสร้างเมืองตามรูปแบบการทำนายแบบเก่าแก่ ซึ่งใช้ดินทรายโปรยลงบนพื้นเพื่อตีความหมาย การทำนายนี้ตั้งอยู่บนหลักการของ “ลมและน้ำ” ซึ่งหมายจะให้เกิดความเสมอภาค กลมกลืนระหว่างชีวิตมนุษย์และธรรมชาติ เมืองปักกิ่งตั้งอยู่บนที่ราบซึ่งเปิดลงไปทางใต้ และอยู่ใต้เขาน้อยใหญ่ที่วางตัวเป็นครึ่งวงกลมทางอุตดร ผังเมืองของที่นี่จึงมีอาคารต่างๆ หันหน้าไปทางทิศใต้เช่นเดียวกับลักษณะทำเลของเมือง ทั้งนี้เพื่อป้องกันพลังหยิน เช่น ลมเย็นจากไซบีเรียหรือข้าศึกศัตรูจากทุ่งหญ้าสเต็ปป์ ส่วนทางด้านใต้เปิดรับพลังอบอุ่นของหยาง ดังนั้นการที่ประตูเซี่ยนเหมินซึ่งเป็นประตูเมืองทางทิศใต้มีความสวยสง่า ขนาดและความขลังมากที่สุดจึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เขาถ่านหิน (หรือจิงซาน Jingshan) ทางตอนเหนือของพระราชวังเป็นจุดที่มีลมฟ้าอากาศโปร่งสบายและสามารถมองลงมาเห็นเมืองปักกิ่งได้ทั้งหมด สนใจทัวร์จีน ติดต่อ>>> http://merrybrighttravel.com/TourChina.html
รวมวัตถุปัจจัยในการวิเคราะห์บอลที่น่าใส่ใจ
การวิเคราะห์บอลในแต่ละคู่นั้นเพื่อให้เกิดความถูกต้องและมีผลใกล้เคียงให้กับผลการประกวดให้มากที่สุดนั้นต้องเอาเหตุและข้อมูลต่างๆ มาเป็นหลักในการคาดการณ์โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.ผลของการประกวดในหนหลังของทีมคู่แข่งขันในอดีตที่พบกัน
2.ผลการชิงชัยของการแข่งขันทั้งสองทีมในอดีตอย่างน้อย5-7นัดหลังสุด
3.การเป็นเจ้าบ้านทีมเยือนฐานะการเป็นเจ้าบ้านจะได้เปรียบกว่าการไปเป็นทีมเยือนโดยเฉพาะสโมสรใหญ่ๆฐานะการคลังดีแฟนบอลมากๆและแฟนคลับจากทั่วโลกราคาพูลที่ออกมาจะเกินจริงจากนิจสินของชิ้นงานเพราะความชื่นชอบของทีมและการเล่นพนัน
4.อัตราการทำประตูและเสี่ยประตูเฉลี่ยโดยทั่วไปแต่ละนัดและในฐานะเจ้าบ้านทีมเยือน
5.อันดับในลีกหรืออันดับโลกอันดับที่สูงกว่าแสดงว่าผลงานในอดีตโดยรวมแล้วย่อมดีกว่า
6.ผู้เล่นผู้สั่งการทีมเจ้าของสโมสรรวมถึงฐานะการเงินต้องเอามาสิ่งประกอบในการไตร่ตรองเพราะผู้จัดการมีสิทธิในการเลือกตัวผู้เล่นลงในการแข่งขันนัดนั้นและแผนการเล่นมีผลต่อการประกวดเจ้าของสโมสรมีสิทธิที่ต้องการให้ผลการประกวดออกมาในรูปแบบใดเพราะเป็นการทำธุรกิจส่วนตัวผู้เล่นอยู่ในช่วงกำลังท็อปฟอร์มเล่นดีเลิศทำประตูได้ทุกนัดหรือเล่นแย่บาดเจ็บและที่สำคัญฐานะทางด้านการเงินของทีมถ้าฐานะไฟแนนซ์ไม่ดีกำลังตกต่ำค้างเงินค่าจ้างนักแตะมักมีผลต่อการแข่งขันแน่นอน
7.ราคาต่อรองของพูลในหลายๆแบบจะเป็นตัวกะเกณฑ์ว่าผลการแข่งขันน่าจะออกมาเป็นอย่างไรสิ่งที่สำคัญราคาทางยุโรปและสหรัฐฯจะเป็นตัวกำหนดได้ง่ายและใกล้เคียงกว่าราคาทางแถบเอเซียเช่นราคาของการทำประตูทั้งสองทีมอัตราการจ่ายน้อยๆเป็นตัวกำหนดไดว่าผลการแข่งขันน่าจะออกมาในรูปแบบนั้นและราคาพูลของเอเซียจึงนำมาตั้งเป็นราคาต่อเป็นลูก
8.ผลการประลองมีผลต่อทีมมากหรือน้อยในนัดนั้นๆหรือมีผลเพียงนัดเดียวหรือไม่มีผลเพียงนัดเดียวต้องต่อเนื่องเช่นบอลถ้วยบอลกระชับมิตรบอลลีกผลการประลองแต่ละนัดความสำคัญไม่เท่ากันเงินรางวัลผลประโยชน์ของทีมสิ่งเหล่านี้เป็นหลักการเบื้องตันที่ต้องนำมาเป็นหลักในการวิเคราะห์บอลและทำนายผลบอลให้เกิดความแม่นยำและใกล้เคียงแต่ยังมีปัจจัยสิ่งแวดล้อมอื่นๆเพราะขณะนี้บอลเป็นธุรกิจที่มีเงินมหาศาลหมุนวนจึงทำให้มีผลต่อการแข่งขันในแต่ละนัดถ้าผู้เขียนมีเวลาว่างมากๆในโอกาสอันควรต่อไปจะนำบทวิเคราะห์บอลแบบเต็มโครงและในทุกหลักการมาวิเคราะห์คู่บอลให้คนได้เห็นและเป็นความรู้ต่อไปเพื่อความสำเร็จในการเล่นของเราทุกคน ทีเด็ด,ทีเด็ดบอล,วิเคราะห์บอล http://www.ballchamp.com
1.ผลของการประกวดในหนหลังของทีมคู่แข่งขันในอดีตที่พบกัน
2.ผลการชิงชัยของการแข่งขันทั้งสองทีมในอดีตอย่างน้อย5-7นัดหลังสุด
3.การเป็นเจ้าบ้านทีมเยือนฐานะการเป็นเจ้าบ้านจะได้เปรียบกว่าการไปเป็นทีมเยือนโดยเฉพาะสโมสรใหญ่ๆฐานะการคลังดีแฟนบอลมากๆและแฟนคลับจากทั่วโลกราคาพูลที่ออกมาจะเกินจริงจากนิจสินของชิ้นงานเพราะความชื่นชอบของทีมและการเล่นพนัน
4.อัตราการทำประตูและเสี่ยประตูเฉลี่ยโดยทั่วไปแต่ละนัดและในฐานะเจ้าบ้านทีมเยือน
5.อันดับในลีกหรืออันดับโลกอันดับที่สูงกว่าแสดงว่าผลงานในอดีตโดยรวมแล้วย่อมดีกว่า
6.ผู้เล่นผู้สั่งการทีมเจ้าของสโมสรรวมถึงฐานะการเงินต้องเอามาสิ่งประกอบในการไตร่ตรองเพราะผู้จัดการมีสิทธิในการเลือกตัวผู้เล่นลงในการแข่งขันนัดนั้นและแผนการเล่นมีผลต่อการประกวดเจ้าของสโมสรมีสิทธิที่ต้องการให้ผลการประกวดออกมาในรูปแบบใดเพราะเป็นการทำธุรกิจส่วนตัวผู้เล่นอยู่ในช่วงกำลังท็อปฟอร์มเล่นดีเลิศทำประตูได้ทุกนัดหรือเล่นแย่บาดเจ็บและที่สำคัญฐานะทางด้านการเงินของทีมถ้าฐานะไฟแนนซ์ไม่ดีกำลังตกต่ำค้างเงินค่าจ้างนักแตะมักมีผลต่อการแข่งขันแน่นอน
7.ราคาต่อรองของพูลในหลายๆแบบจะเป็นตัวกะเกณฑ์ว่าผลการแข่งขันน่าจะออกมาเป็นอย่างไรสิ่งที่สำคัญราคาทางยุโรปและสหรัฐฯจะเป็นตัวกำหนดได้ง่ายและใกล้เคียงกว่าราคาทางแถบเอเซียเช่นราคาของการทำประตูทั้งสองทีมอัตราการจ่ายน้อยๆเป็นตัวกำหนดไดว่าผลการแข่งขันน่าจะออกมาในรูปแบบนั้นและราคาพูลของเอเซียจึงนำมาตั้งเป็นราคาต่อเป็นลูก
8.ผลการประลองมีผลต่อทีมมากหรือน้อยในนัดนั้นๆหรือมีผลเพียงนัดเดียวหรือไม่มีผลเพียงนัดเดียวต้องต่อเนื่องเช่นบอลถ้วยบอลกระชับมิตรบอลลีกผลการประลองแต่ละนัดความสำคัญไม่เท่ากันเงินรางวัลผลประโยชน์ของทีมสิ่งเหล่านี้เป็นหลักการเบื้องตันที่ต้องนำมาเป็นหลักในการวิเคราะห์บอลและทำนายผลบอลให้เกิดความแม่นยำและใกล้เคียงแต่ยังมีปัจจัยสิ่งแวดล้อมอื่นๆเพราะขณะนี้บอลเป็นธุรกิจที่มีเงินมหาศาลหมุนวนจึงทำให้มีผลต่อการแข่งขันในแต่ละนัดถ้าผู้เขียนมีเวลาว่างมากๆในโอกาสอันควรต่อไปจะนำบทวิเคราะห์บอลแบบเต็มโครงและในทุกหลักการมาวิเคราะห์คู่บอลให้คนได้เห็นและเป็นความรู้ต่อไปเพื่อความสำเร็จในการเล่นของเราทุกคน ทีเด็ด,ทีเด็ดบอล,วิเคราะห์บอล http://www.ballchamp.com
สิบ เหตุที่พึงใช้ Facebook(เฟสบุ๊ก) แทน Website
Facebook(เฟสบุ๊ก) เป็นSocial networkสำหรับให้Peopleมาปฎิสัมพันธ์กัน ไม่ใช่เพื่อเป็นเข้าสังคมของการช้อปปิ้ง แล้วเพราะเหตุไรCompanyของเราถึงควรเสียเวลาและทรัพยากรบุคคลมาคอยดูแล Fan Page(แฟนเพจ) ของ Facebook(เฟสบุ๊ก) ด้วยล่ะ (Fan Page(แฟนเพจ) คือหน้าโปรไฟล์ของCompany) ถึงแม้ว่าMemberที่มาเป็นแฟนCompanyหรือBusinessของเราไม่ได้สนใจจะซื้อProductsหรือService แต่สิ่งที่พวกเขาก็เชื่อมกับCompanyในทางใดทางหนึ่ง เพราะอย่างน้อยเขาทั้งหลายก็ยอมรับว่าเป็น ‘แฟน’ ของเราแล้วไงล่ะ และการทำ Fan Page(แฟนเพจ) ก็มีBenefitsมากมายหลายอย่าง มากกว่าที่เราคาดการณ์เลยทีเดียว
1. Facebook(เฟสบุ๊ก) เป็นช่องทางPromoteBusinessมีทั้งแบบฟรี และเสียเงิน
Fan Page(แฟนเพจ) ของ Faebook สามารถHelpในการแบรนดิ้งBusinessของเราไปในตัว ซึ่งเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอาจมีคนอีกมากมายกลายมาเป็นCustomersของเราในอนาคต หรืออาจเป็นคนที่อยากร่วมงานกับเรา นักลงทุน ตลอดจนถึงสื่อที่สนใจในBusinessของเรา ไม่ต้องกลัวว่าการมี Fan Page(แฟนเพจ) จะยุ่งยากหรือจำกัดเพราะคนที่มี Facebook(เฟสบุ๊ก) เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าชม Fan Page(แฟนเพจ) ของเราได้ เพราะ Fan Page(แฟนเพจ) เปิดให้ทุกคนเข้ามาอ่านหรือดูโปรไฟล์Businessได้โดยที่ไม่ต้องเป็นMember โดยเหตุนั้นผู้ใช้งานInternetจำนวนมากจึงสามารถเข้าถึงInformationProductsหรือServiceที่เราต้องการPromoteได้อย่างง่ายดาย
Trick: อัพเดตเนื้อหาจากWebsiteหลักเข้า Fan Page(แฟนเพจ) ผ่าน RSS เพื่อเซฟเวลา แต่ระวังอย่าให้มีเนื้อหาที่ชี้ชวนหรือAdsขายจนเกินไป
2. คนกด Like Fan Page(แฟนเพจ) มากขึ้น
Facebook(เฟสบุ๊ก) อนุญาตให้ใส่ลิงก์WebsiteCompanyหรือBusinessได้ ดังนั้นผู้ที่เข้ามาชมหน้า Fan Page(แฟนเพจ) ใน Facebook(เฟสบุ๊ก) ซึ่งพอใจและอยากรู้Informationเกี่ยวกับCompanyหรือProductsServiceของเรามากขึ้นก็สามารถคลิกลิงก์ไปยังWebsiteอย่างเป็นทางการของCompanyได้เลยทันที นอกจากนี้ก็อย่าลืมใส่ Facebook(เฟสบุ๊ก) Widget ซึ่งจะHelpให้คนที่เข้ามายังWebsiteสามารถคลิกเข้าไปเยี่ยมชมและมากด Like เป็นแฟนในหน้า Fan Page(แฟนเพจ) ได้เช่นกัน เมื่อเราทำทั้ง 2 อย่างนี้แล้ว ทั้งงWebsiteและ Fan Page(แฟนเพจ) ก็จะสามารถHelpPromoteกันและกันได้
Trick: เปลี่ยนสถานะจากผู้ใช้ Facebook(เฟสบุ๊ก) เป็นแฟนProductและจากแฟนเป็นCustomers ผ่านการPromoteWebsiteด้วย Fan Page(แฟนเพจ)
3. เพิ่มEfficiencyการทำ SEO
การมีแก่นสารเกี่ยวกับCompanyของเีรากระจายอยู่ในหลายๆ WebsiteจะHelpทำให้การค้นหาผ่าน search engine อย่าง Google มีEfficiencyเพิ่มขึ้น ทำให้คนค้นเจอWebsiteของเราได้มากและเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Social Search Serviceใหม่จาก Google ยังHelpให้ผู้ค้นหาสามารถอ่านความเห็นที่เกี่ยวข้องกับProductsหรือServiceของเราได้ทันทีจากหน้าแสดงผลการค้นหา การลิงก์ Fan Page(แฟนเพจ) เข้ากับWebsiteหลักจึงเป็นวิธีที่เปี่ยมEfficiencyในการHelpต่อยอดจำนวนผู้เข้าชมWebsiteได้อีกทางหนึ่ง
4. สร้างคอมมูนิตี้Consumerหรือกลุ่มCustomersได้ง่ายและไม่ต้องเสียเงินเสียทอง
Fan Page(แฟนเพจ) ถือเป็นอีกAlternativeในการทำให้กลุ่มCustomersเข้ามามีส่วนร่วมกับWebsiteหลักของProductsหรือProductมากขึ้น นอกจากนี้เรายังสามารถโพสต์Message รูปภาพ วิดีโอ และอื่นๆ ลงบนโปรไฟล์ Facebook(เฟสบุ๊ก) เพื่อแชร์ให้บรรดาแฟนๆ ของProductsและServiceได้ชมอีกด้วย ที่สำคัญเรายังสามารถพูดคุยกับCustomers ถามคำถาม ความคิดเห็น ความพึงพอใจ และอื่นๆ อีกมากมาย Helpให้We canปรับปรุงหรือต่อยอดProduct Products หรือServiceจากความคิดเห็นของConsumerได้อีกด้วย
5. Facebook(เฟสบุ๊ก) เข้าถึงกลุ่มCustomersได้Directly
ถ้าMemberคนนั้นเป็นแฟนของ Fan Page(แฟนเพจ) เราใน Facebook(เฟสบุ๊ก) แล้ว เราก็สามารถส่งMessageถึงพวกเขาได้Directly ซึ่งWe canเลือกได้ว่าจะส่งให้ใครบ้าง เช่น หากคุณทำกิจกรรมในเมืองหนึ่ง เราก็สามารถเลือกส่งMessageเชิญชวนให้เฉพาะแฟนที่อยู่ในจังหวัดนั้นๆ ให้มาร่วมกิจกรรมชิงรางวัลกับProductsหรือServiceของเราได้ และไม่่ใช่แค่พื้นที่เท่านั้น แต่อายุ หรือ เพศ ก็สามารถกำหนดได้เช่นกัน
6. Facebook(เฟสบุ๊ก) Helpเสริมสร้างRelationshipกับCustomersให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
การคุยกันหรือCommentเล็กๆ น้อยๆ สามารถทำให้RelationshipกับCustomersแกร่งขึ้น เพราะเป็นการโต้ตอบกันโดยที่Customersไม่ได้รู้สึกว่าถูกบีบบังคับให้ซื้อProducts แต่เป็นการคุยกันแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งจะทำให้ทัศนคติของCustomersต่อBrandดียิ่งขึ้น แม้ว่าจะไม่มีการขายเกิดขึ้นใน Facebook(เฟสบุ๊ก) เลยก็ตาม แต่กว่า 90% ของผู้ใช้ Facebook(เฟสบุ๊ก) มุ่งหมายจะเห็นProductsหรือProductที่ตนเองใช้มี Fan Page(แฟนเพจ)
7. Facebook(เฟสบุ๊ก) Helpสร้างพื้นที่ให้ผู้ภักดีต่อBrandได้บอกต่อ
แม้ผู้ใช้จำนวน 25% จะไม่ชอบป่าวประกาศบอกคนอื่นๆ ว่าตนเองชอบหรือใช้Productอะไร แต่ผู้ใช้จำนวนที่เหลืออีกมากมายพร้อมจะชี้ทางหรือแสดงความชื่นชมProductsหรือServiceที่ตนเองประทับใจ รวมถึงบอกต่อไปยังเพื่อนๆ หรือคนรู้จักใน Facebook(เฟสบุ๊ก) อีกด้วย
ฉะนั้นการสร้างRelationshipกับCustomersชั้นเยี่ยมแบบนี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะคนกลุ่มนี้จะHelpเป็นกระบอกเสียงให้กับProductsโดยที่เราไม่จำเป็นต้องเสียเงินค่าAdsด้วยซ้ำ
Trick: การโพสต์ข่าวสารInformationในหน้า Fan Page(แฟนเพจ) หรือMessageต่างๆ ที่เราโต้ตอบกับผู้ใช้งาน Fan Page(แฟนเพจ) ก็จะปรากฏบนหน้าอัพเดตของทั้งคุณและแฟนProductsคนนั้นด้วย Helpเพิ่มโอกาส(Chance)ให้มีคนมาเป็นแฟน Fan Page(แฟนเพจ) เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
8. เฝ้าจับตาดูกิริยาท่าทางMember
ในสังคมOnlineแบบ Facebook(เฟสบุ๊ก) CustomersและConsumerมักไม่ค่อยตั้งป้อมขัดขวางหรือแสดงอคติต่อการเข้าไปทำMarketingของBrandใดBrandหนึ่ง พวกเขามีแน้วโน้มที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับProductsหรือServiceหรือประสบการณ์ทั้งที่ดีและไม่ดีต่อBusinessของเราหรือของcompetitor ซึ่งหากเราให้Importanceหรือใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้และสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มCustomersได้ เราก็จะได้เปรียบcompetitorรายอื่นๆ โดยปริยาย
Trick: Fan Page(แฟนเพจ) มาพร้อมหน้าถาม-ตอบอยู่แล้ว We canใช้ส่วนนี้ให้เป็นBenefitsด้วยการสนับสนุนให้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่เป็นBenefitsต่อBusiness เช่น ส่วนที่อยากให้ปรับปรุงProducts เป็นต้น
9. Facebook(เฟสบุ๊ก) มีToolวัดผลที่แม่นยำ
ถ้าอยากรู้ว่า Fan Page(แฟนเพจ) ได้รับAcceptanceมากแค่ไหน Facebook(เฟสบุ๊ก) ก็มีService Page Insights ซึ่งเป็นToolรายงานและวัดสถิติ เช่น มีคนเข้ามาคอมเมนต์หรือโพสต์Messageมากน้อยขนาดไหน รวมถึงInformationเกี่ยวกับแฟนๆ ของ Fan Page(แฟนเพจ) ด้วยว่าอายุเท่าไร เพศอะไร ภูมิลำเนาอยู่แถวไหน ซึ่งToolเหล่านี้จะHelpให้We canทำMarketingโดยเน้นไปยังกลุ่มdestinationได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น
Trick: อย่าลืมนำInformationเหล่านั้นมาใช้Benefitsในการสร้างสารที่เหมาะสมและส่งไปยังกลุ่มCustomersที่เป็นกลุ่มdestinationของProductsหรือServiceไดุ้ถูกต้อง เพื่อนำไปสู่destinationทางMarketingที่ตั้งไว้
10. ไล่ตามcompetitorทัน
ถ้ายังคิดว่า Fan Page(แฟนเพจ) ไม่จำเป็นสำหรับBusinessอยู่ล่ะก็ ลองมองด้านCompetitionดูบ้าง อย่าลืมว่าถ้าcompetitorของเราทำ Fan Page(แฟนเพจ) ซึ่งมีจำนวนแฟนๆมากมายและมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับกลุ่มCustomersจนRelationshipเหนียวแน่นจนไม่เหลือที่ว่างให้Businessของเรา แล้วแบบนี้เราจะมัวรออะไรอยู่อีก เริ่มทำ Fan Page(แฟนเพจ) ใน Facebook(เฟสบุ๊ก) ตั้งแต่วันนี้เพื่อความดีกว่าในท้องตลาดและก้าวเป็นหนึ่งในสังคมOnline
1. Facebook(เฟสบุ๊ก) เป็นช่องทางPromoteBusinessมีทั้งแบบฟรี และเสียเงิน
Fan Page(แฟนเพจ) ของ Faebook สามารถHelpในการแบรนดิ้งBusinessของเราไปในตัว ซึ่งเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอาจมีคนอีกมากมายกลายมาเป็นCustomersของเราในอนาคต หรืออาจเป็นคนที่อยากร่วมงานกับเรา นักลงทุน ตลอดจนถึงสื่อที่สนใจในBusinessของเรา ไม่ต้องกลัวว่าการมี Fan Page(แฟนเพจ) จะยุ่งยากหรือจำกัดเพราะคนที่มี Facebook(เฟสบุ๊ก) เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าชม Fan Page(แฟนเพจ) ของเราได้ เพราะ Fan Page(แฟนเพจ) เปิดให้ทุกคนเข้ามาอ่านหรือดูโปรไฟล์Businessได้โดยที่ไม่ต้องเป็นMember โดยเหตุนั้นผู้ใช้งานInternetจำนวนมากจึงสามารถเข้าถึงInformationProductsหรือServiceที่เราต้องการPromoteได้อย่างง่ายดาย
Trick: อัพเดตเนื้อหาจากWebsiteหลักเข้า Fan Page(แฟนเพจ) ผ่าน RSS เพื่อเซฟเวลา แต่ระวังอย่าให้มีเนื้อหาที่ชี้ชวนหรือAdsขายจนเกินไป
2. คนกด Like Fan Page(แฟนเพจ) มากขึ้น
Facebook(เฟสบุ๊ก) อนุญาตให้ใส่ลิงก์WebsiteCompanyหรือBusinessได้ ดังนั้นผู้ที่เข้ามาชมหน้า Fan Page(แฟนเพจ) ใน Facebook(เฟสบุ๊ก) ซึ่งพอใจและอยากรู้Informationเกี่ยวกับCompanyหรือProductsServiceของเรามากขึ้นก็สามารถคลิกลิงก์ไปยังWebsiteอย่างเป็นทางการของCompanyได้เลยทันที นอกจากนี้ก็อย่าลืมใส่ Facebook(เฟสบุ๊ก) Widget ซึ่งจะHelpให้คนที่เข้ามายังWebsiteสามารถคลิกเข้าไปเยี่ยมชมและมากด Like เป็นแฟนในหน้า Fan Page(แฟนเพจ) ได้เช่นกัน เมื่อเราทำทั้ง 2 อย่างนี้แล้ว ทั้งงWebsiteและ Fan Page(แฟนเพจ) ก็จะสามารถHelpPromoteกันและกันได้
Trick: เปลี่ยนสถานะจากผู้ใช้ Facebook(เฟสบุ๊ก) เป็นแฟนProductและจากแฟนเป็นCustomers ผ่านการPromoteWebsiteด้วย Fan Page(แฟนเพจ)
3. เพิ่มEfficiencyการทำ SEO
การมีแก่นสารเกี่ยวกับCompanyของเีรากระจายอยู่ในหลายๆ WebsiteจะHelpทำให้การค้นหาผ่าน search engine อย่าง Google มีEfficiencyเพิ่มขึ้น ทำให้คนค้นเจอWebsiteของเราได้มากและเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Social Search Serviceใหม่จาก Google ยังHelpให้ผู้ค้นหาสามารถอ่านความเห็นที่เกี่ยวข้องกับProductsหรือServiceของเราได้ทันทีจากหน้าแสดงผลการค้นหา การลิงก์ Fan Page(แฟนเพจ) เข้ากับWebsiteหลักจึงเป็นวิธีที่เปี่ยมEfficiencyในการHelpต่อยอดจำนวนผู้เข้าชมWebsiteได้อีกทางหนึ่ง
4. สร้างคอมมูนิตี้Consumerหรือกลุ่มCustomersได้ง่ายและไม่ต้องเสียเงินเสียทอง
Fan Page(แฟนเพจ) ถือเป็นอีกAlternativeในการทำให้กลุ่มCustomersเข้ามามีส่วนร่วมกับWebsiteหลักของProductsหรือProductมากขึ้น นอกจากนี้เรายังสามารถโพสต์Message รูปภาพ วิดีโอ และอื่นๆ ลงบนโปรไฟล์ Facebook(เฟสบุ๊ก) เพื่อแชร์ให้บรรดาแฟนๆ ของProductsและServiceได้ชมอีกด้วย ที่สำคัญเรายังสามารถพูดคุยกับCustomers ถามคำถาม ความคิดเห็น ความพึงพอใจ และอื่นๆ อีกมากมาย Helpให้We canปรับปรุงหรือต่อยอดProduct Products หรือServiceจากความคิดเห็นของConsumerได้อีกด้วย
5. Facebook(เฟสบุ๊ก) เข้าถึงกลุ่มCustomersได้Directly
ถ้าMemberคนนั้นเป็นแฟนของ Fan Page(แฟนเพจ) เราใน Facebook(เฟสบุ๊ก) แล้ว เราก็สามารถส่งMessageถึงพวกเขาได้Directly ซึ่งWe canเลือกได้ว่าจะส่งให้ใครบ้าง เช่น หากคุณทำกิจกรรมในเมืองหนึ่ง เราก็สามารถเลือกส่งMessageเชิญชวนให้เฉพาะแฟนที่อยู่ในจังหวัดนั้นๆ ให้มาร่วมกิจกรรมชิงรางวัลกับProductsหรือServiceของเราได้ และไม่่ใช่แค่พื้นที่เท่านั้น แต่อายุ หรือ เพศ ก็สามารถกำหนดได้เช่นกัน
6. Facebook(เฟสบุ๊ก) Helpเสริมสร้างRelationshipกับCustomersให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
การคุยกันหรือCommentเล็กๆ น้อยๆ สามารถทำให้RelationshipกับCustomersแกร่งขึ้น เพราะเป็นการโต้ตอบกันโดยที่Customersไม่ได้รู้สึกว่าถูกบีบบังคับให้ซื้อProducts แต่เป็นการคุยกันแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งจะทำให้ทัศนคติของCustomersต่อBrandดียิ่งขึ้น แม้ว่าจะไม่มีการขายเกิดขึ้นใน Facebook(เฟสบุ๊ก) เลยก็ตาม แต่กว่า 90% ของผู้ใช้ Facebook(เฟสบุ๊ก) มุ่งหมายจะเห็นProductsหรือProductที่ตนเองใช้มี Fan Page(แฟนเพจ)
7. Facebook(เฟสบุ๊ก) Helpสร้างพื้นที่ให้ผู้ภักดีต่อBrandได้บอกต่อ
แม้ผู้ใช้จำนวน 25% จะไม่ชอบป่าวประกาศบอกคนอื่นๆ ว่าตนเองชอบหรือใช้Productอะไร แต่ผู้ใช้จำนวนที่เหลืออีกมากมายพร้อมจะชี้ทางหรือแสดงความชื่นชมProductsหรือServiceที่ตนเองประทับใจ รวมถึงบอกต่อไปยังเพื่อนๆ หรือคนรู้จักใน Facebook(เฟสบุ๊ก) อีกด้วย
ฉะนั้นการสร้างRelationshipกับCustomersชั้นเยี่ยมแบบนี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะคนกลุ่มนี้จะHelpเป็นกระบอกเสียงให้กับProductsโดยที่เราไม่จำเป็นต้องเสียเงินค่าAdsด้วยซ้ำ
Trick: การโพสต์ข่าวสารInformationในหน้า Fan Page(แฟนเพจ) หรือMessageต่างๆ ที่เราโต้ตอบกับผู้ใช้งาน Fan Page(แฟนเพจ) ก็จะปรากฏบนหน้าอัพเดตของทั้งคุณและแฟนProductsคนนั้นด้วย Helpเพิ่มโอกาส(Chance)ให้มีคนมาเป็นแฟน Fan Page(แฟนเพจ) เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
8. เฝ้าจับตาดูกิริยาท่าทางMember
ในสังคมOnlineแบบ Facebook(เฟสบุ๊ก) CustomersและConsumerมักไม่ค่อยตั้งป้อมขัดขวางหรือแสดงอคติต่อการเข้าไปทำMarketingของBrandใดBrandหนึ่ง พวกเขามีแน้วโน้มที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับProductsหรือServiceหรือประสบการณ์ทั้งที่ดีและไม่ดีต่อBusinessของเราหรือของcompetitor ซึ่งหากเราให้Importanceหรือใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้และสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มCustomersได้ เราก็จะได้เปรียบcompetitorรายอื่นๆ โดยปริยาย
Trick: Fan Page(แฟนเพจ) มาพร้อมหน้าถาม-ตอบอยู่แล้ว We canใช้ส่วนนี้ให้เป็นBenefitsด้วยการสนับสนุนให้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่เป็นBenefitsต่อBusiness เช่น ส่วนที่อยากให้ปรับปรุงProducts เป็นต้น
9. Facebook(เฟสบุ๊ก) มีToolวัดผลที่แม่นยำ
ถ้าอยากรู้ว่า Fan Page(แฟนเพจ) ได้รับAcceptanceมากแค่ไหน Facebook(เฟสบุ๊ก) ก็มีService Page Insights ซึ่งเป็นToolรายงานและวัดสถิติ เช่น มีคนเข้ามาคอมเมนต์หรือโพสต์Messageมากน้อยขนาดไหน รวมถึงInformationเกี่ยวกับแฟนๆ ของ Fan Page(แฟนเพจ) ด้วยว่าอายุเท่าไร เพศอะไร ภูมิลำเนาอยู่แถวไหน ซึ่งToolเหล่านี้จะHelpให้We canทำMarketingโดยเน้นไปยังกลุ่มdestinationได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น
Trick: อย่าลืมนำInformationเหล่านั้นมาใช้Benefitsในการสร้างสารที่เหมาะสมและส่งไปยังกลุ่มCustomersที่เป็นกลุ่มdestinationของProductsหรือServiceไดุ้ถูกต้อง เพื่อนำไปสู่destinationทางMarketingที่ตั้งไว้
10. ไล่ตามcompetitorทัน
ถ้ายังคิดว่า Fan Page(แฟนเพจ) ไม่จำเป็นสำหรับBusinessอยู่ล่ะก็ ลองมองด้านCompetitionดูบ้าง อย่าลืมว่าถ้าcompetitorของเราทำ Fan Page(แฟนเพจ) ซึ่งมีจำนวนแฟนๆมากมายและมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับกลุ่มCustomersจนRelationshipเหนียวแน่นจนไม่เหลือที่ว่างให้Businessของเรา แล้วแบบนี้เราจะมัวรออะไรอยู่อีก เริ่มทำ Fan Page(แฟนเพจ) ใน Facebook(เฟสบุ๊ก) ตั้งแต่วันนี้เพื่อความดีกว่าในท้องตลาดและก้าวเป็นหนึ่งในสังคมOnline
ทูเดย์เรามาศึกษาทำความรู้จักกับ google bot ทั้งสองจำพวกกันครับ
google bot หรือ spider ของ Google มันมีภารกิจในการวิ่ง หรือไต่ หรือเดิน หรือคลาน (อันนี้ไม่แน่ชัด) ไปตามลิ้งค์เพื่อเก็บข้อมูลตามเว็บเพจต่างๆเข้ามายังฐานข้อมูล index จากนั้นก็จะต้องมีการเทียบเคียงส่วนประกอบของโครงสร้างเเละเนื้อหาในเเต่ละเว็บเพจ เพื่อจัดเรียงคำสำคัญๆในเว็บเพจนั้น เพื่อเตรียมพร้อมให้บริการค้นหากับคุณบนเว็บ google อย่างรวดเร็ว เเละสอดคล้องกับการแสวงหาของผู้ใช้ Google มากที่สุด googlebot มันมีสองเวอร์ชั่น คือ deepbot เเละ freshbot deepbot google bot เวอร์ชั่นนี้จะเป็นระบบ deep crawler มันชอบเดินทางไกลและชอบแสวงหา มันจะเพียรพยายามอย่างมากในการค้นหาเว็บเพจที่อยู่เเถวบ้านนอกครับ(เว็บที่ไม่เคยจะโปรโมทเลย)ไม่ว่าจะเป็นเว็บเก่าหรือเว็บใหม่ ด้วยการใช้ลิ้งค์เป็นถนนเดินทางไปทั่ว เมื่อมันพบเเล้ว มันก็จะเก็บข้อมูลใหม่ๆที่มันเจอลงใน index ของ Google มันจะทำงานเดือนละครั้งเท่านั้น เเต่ว่ามันจะเริ่มทำงานวันไหนก็แล้วแต่ว่าแต่ละครั้งมันจบงานวันไหน ไม่จำเป็นต้องเป็นวันสิ้นเดือนเสมอไป เเละบางทีอันดับเว็บเพจต่างๆเปลี่ยนไปมาไม่คงที่ ส่วนหนึ่งก็มาจากภารกิจของ deepbot ที่มันพบของใหม่ๆนั่นเอง freshbot เมื่อ Google มีข้อมูลเว็บเพจเเละลิ้งทั้งเก่าเเละใหม่จำนวนมากจากการใช้ deepbot เเล้วที่นี้ก็ต้องต้องทำยังไงให้ indexer มีข้อมูลใหม่ๆสดๆ เช่นเมื่อคืนนี้มีงานเปิดตัว iPhone 5 Google ก็จะต้องอัปเดตให้ทันด้วย คำตอบก็คือใช้ freshbot นั่นเอง freshbot ตัวนี้มันขยันเเละตามกระแส มันจะชอบแวะเวียนไปยังเว็บไซต์ที่มีการอัปเดทบ่อยๆ เพื่อเก็บข้อมูลจากเว็บไซต์เพื่อมาอัปเดท index ให้ทันกระแสโลกนั่นเอง
เกาะฮอกไกโด ที่สุดแห่งเกาะท่องเที่ยวของญี่ปุ่น
การทัวร์ที่ญี่ปุ่นก็จะมีสถานท่องเที่ยวที่หลากหลายกันออกไปโดยการมาทัวร์ญี่ปุ่นก็จะพามาที่ ฮอกไกโด ฮอกไกโด เป็นเกาะใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่นรองจากเกาะฮอนชู ตั้งอยู่ตำแหน่งเหนือสุดของประเทศ เดิมเกาะฮอกไกโดเป็นที่อาศัยของชนพื้นเมืองดั้งเดิม คือ ชาวไอนุ ซึ่งมีวัฒนธรรมคล้ายกับอินเดียนแดงของอเมริกา คำว่า ซัปโปโร ในภาษาไอนุ แปลว่า เมืองที่มีแม่น้ำไหลผ่าน ภูมิประเทศของเกาะฮอกไกโดนี้เต็มไปด้วยทุ่งหญ้า ทุ่งนา ป่า ภูเขา ทะเลสาป แม่น้ำ และ ปล่องภูเขาไฟ จึงเป็นดินแดนที่มีทัศนียภาพงดงามเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ในปัจจุบันฮอกไกโด ของประเทศญี่ปุ่น มีประชากรประมาณห้าล้านคน เมืองหลวงของฮอกไกโด ชื่อเมืองซัปโปโร มีประชากรประมาณหนึ่งล้านแปดแสนคน แต่เดิม ฮอกไกโดไม่ใช่ประเทศญี่ปุ่น แต่เป็นเกาะซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชาวพื้นเมือง คือ ชาวไอนุ ซึ่งชาวพื้นเมืองที่อาศัยอยู่บนเกาะฮอกไกโดเหล่านี้ได้อยู่กระจัดกระจายไประหว่างเกาะฮอกไกโดและทางตอนใต้ของรัสเซีย หน้าตาของ ชาวไอนุ จะมีหน้าคล้ายอินเดียนแดงมากกว่าคนเอเชีย สันนิษฐานว่าที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าในอดีต ระหว่างฮอกไกโดกับรัสเซียเป็นผื่นดินที่ติดต่อกัน อาชีพหลักของชาวฮอกไกโด คือ อาชีพเกษตร ปลูกข้าว ปลูกมันฝรั่งและอื่นๆ เกาะฮอกไกโด จึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นปากท้องของญี่ปุ่น ฮอกไกโดของญี่ปุ่น เป็นเกาะใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เมืองฮอกไกโด ถือเป็นสวรรค์ของธรรมชาติซึ่งสามารถจะท่องเที่ยวได้ตลอดปีมีทั้งภูเขา ที่ราบสูง แม่น้ำ ทะเลสาบ บ่อน้ำพุร้อนและชายฝั่งทะเล มีเมืองซัปโปโร เป็นศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจและการเมือง รวมทั้งการเดินทางจากฮอกไกโด ไปโตเกียวและโอซาก้า ฮอกไกโดเป็นเมืองที่มีการจัดวางผังได้สมบูรณ์แบบ ฮอกไกโดมีสวนสาธารณะโอโดริ ซึ่งเป็นที่จัดแสดงงานเทศกาลหิมะที่มีชื่อเสียงของฮอกไกโด ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาชมงานที่ฮอกไกโด ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี นอกจากนี้ที่ฮอกไกโดยังมี หอนาฬิกาอันเก่าแก่ อีกทั้ง ย่านร้านค้าซึซึกิโน่ ซึ่งเป็นศูนย์การค้าและแหล่งจับจ่ายซื้อของที่มีชื่อเสียงของเมืองฮอกไกโดนี้ เมื่อมีโอกาสได้มาทัวร์ญี่ปุ่นอย่าลืมแวะมาเกาะฮอกไกโดกันให้ได้นะคะ เพราะความสวยงามของเกาะฮอกไกโดนั้นจะช่วยให้คุณลืมความเครียดต่างๆ ไปอย่างสิ้นเชิงค่ะ เพราะธรรมชาติและความสวยงามของเกาะฮอกไกโดจะช่วยให้คุณเพลิดเพลินและได้เรียนรู้ถึงความเป็นอยู่และวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นด้วย ขอบคุณสาระดีๆจาก http://merrybrighttravel.com/TourJapan.html ทัวร์ญี่ปุ่น,เที่ยวญี่ปุ่น,ท่องเที่ยวญี่ปุ่น,นำเที่ยวญี่ปุ่น,ที่เที่ยวญี่ปุ่น
5วิธีพลิกแพลงการตลาดออนไลน์ที่ไม่ควรพลาด
เน้นที่ผู้บริโภคสมัยปัจจุบันมากกว่า
การได้มาซึ่งลูกค้าใหม่ก็มีความสำคัญ แต่ต้นทุนหรือความคุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาลูกค้าปัจจุบันให้คงความเป็นลูกค้าต่อไปแล้ว \"การรักษาลูกค้าปัจจุบันย่อมดีกว่า\" จะต้องเน้นกลยุทธ์ในการดึงลูกค้าปัจจุบันให้อยู่นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ การตลาดออนไลน์ถือว่าเป็นการตลาดที่ต้นทุนไม่สูงและสามารถเข้าถึงลูกค้าปัจจุบันของคุณได้เป็นอย่างดี อาจจะใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อสนทนากับลูกค้าเหล่านี้ เพื่อจะได้ใจลูกค้าและสร้างความประทับใจได้ในที่สุด ...สุดท้าย ก็อาจจะได้ลูกค้าเป็นตัวแทนหรือ แบรนด์แอมบาสเตอร์ของก็ได้
อธิบายให้แตกต่างกับผู้ซื้อที่ต่างกัน
ผู้บริโภคทุกคนต้องการการนำเสนอที่เป็นตรงใจและเป็นตัวของเขาเองมากกว่า การสร้างกลุ่มเป้าหมายย่อยด้วยการสื่อสารแบบส่วนบุคคล (Personalization) จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อผู้บริโภค การสนทนาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ด้วยแอพพลิเคชั่น Social CRM จะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะเข้าใจผู้บริโภคได้มากขึ้น หรือการสื่อสารกับผู้บริโภคด้วยแอพพลิเคชั่นการตลาดอีเมล์ที่สามารถติดตามพฤติกรรมของผู้บริโภคได้และส่งแคมเปญอีเมล์ใหม่จากพฤติกรรมเหล่านั้นเป็นต้น
สร้างโปรไฟล์ของผู้โปรดปราน
ต้องให้ความสำคัญกับโปรไฟล์หรือข้อมูลเชิงลึกของผู้ชื่นชอบของคุณมากขึ้น ข้อมูลโปรไฟล์เหล่านี้จะช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยอาจเพิ่มคำถามเชิงลึกหลังจากที่ผู้ชื่นชอบหรือสมาชิกลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์
อีกเคล็ดลับที่ได้รับนิยมมากขึ้นคือการดึงโปรไฟล์จากเว็บไซต์สังคมออนไลน์อย่าง Facebook, Twitter หรือ G+ ในการลงชื่อหรือเข้าสู่ระบบในเว็บไซต์ กลยุทธ์นี้ช่วยให้ได้ข้อมูลเชิงลึกของสมาชิก โดยที่ไม่ต้องถาม เพราะสามารถได้ข้อมูลของผู้ชื่นชอบทันทีจากเว็บไซต์สังคมออนไลน์เหล่านั้น ผู้บริโภคยินดีที่จะให้ข้อมูลเชิงลึก หากเขาได้รับประโยชน์หรือบริการที่ดีมากยิ่งขึ้น
โมบายโมบายและโมบาย
โมบาย ทั้งสมาร์ทโฟนและแทบเล็ต จะเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนการตลาดออนไลน์ของปี 2556 และอนาคต ดังนั้นจะต้องเตรียมกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ผ่านโมบายไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ที่เป็นโมบายไซต์? หรือโมบายแอพพลิเคชั่นรวมไปถึงกิจกรรมออนไลน์ที่เคยผ่านคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปมาสู่โมบาย อาทิการสั่งซื้อออนไลน์การชำระเงินออนไลน์หรือธุรกรรมต่างๆ
เพียงแค่ 5 วิธีการนี้ ก็สามารถประสบความสำเร็จอย่างงามในการตลาดออนไลน์ของปีนี้แน่นอน
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
การได้มาซึ่งลูกค้าใหม่ก็มีความสำคัญ แต่ต้นทุนหรือความคุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาลูกค้าปัจจุบันให้คงความเป็นลูกค้าต่อไปแล้ว \"การรักษาลูกค้าปัจจุบันย่อมดีกว่า\" จะต้องเน้นกลยุทธ์ในการดึงลูกค้าปัจจุบันให้อยู่นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ การตลาดออนไลน์ถือว่าเป็นการตลาดที่ต้นทุนไม่สูงและสามารถเข้าถึงลูกค้าปัจจุบันของคุณได้เป็นอย่างดี อาจจะใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อสนทนากับลูกค้าเหล่านี้ เพื่อจะได้ใจลูกค้าและสร้างความประทับใจได้ในที่สุด ...สุดท้าย ก็อาจจะได้ลูกค้าเป็นตัวแทนหรือ แบรนด์แอมบาสเตอร์ของก็ได้
อธิบายให้แตกต่างกับผู้ซื้อที่ต่างกัน
ผู้บริโภคทุกคนต้องการการนำเสนอที่เป็นตรงใจและเป็นตัวของเขาเองมากกว่า การสร้างกลุ่มเป้าหมายย่อยด้วยการสื่อสารแบบส่วนบุคคล (Personalization) จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อผู้บริโภค การสนทนาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ด้วยแอพพลิเคชั่น Social CRM จะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะเข้าใจผู้บริโภคได้มากขึ้น หรือการสื่อสารกับผู้บริโภคด้วยแอพพลิเคชั่นการตลาดอีเมล์ที่สามารถติดตามพฤติกรรมของผู้บริโภคได้และส่งแคมเปญอีเมล์ใหม่จากพฤติกรรมเหล่านั้นเป็นต้น
สร้างโปรไฟล์ของผู้โปรดปราน
ต้องให้ความสำคัญกับโปรไฟล์หรือข้อมูลเชิงลึกของผู้ชื่นชอบของคุณมากขึ้น ข้อมูลโปรไฟล์เหล่านี้จะช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยอาจเพิ่มคำถามเชิงลึกหลังจากที่ผู้ชื่นชอบหรือสมาชิกลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์
อีกเคล็ดลับที่ได้รับนิยมมากขึ้นคือการดึงโปรไฟล์จากเว็บไซต์สังคมออนไลน์อย่าง Facebook, Twitter หรือ G+ ในการลงชื่อหรือเข้าสู่ระบบในเว็บไซต์ กลยุทธ์นี้ช่วยให้ได้ข้อมูลเชิงลึกของสมาชิก โดยที่ไม่ต้องถาม เพราะสามารถได้ข้อมูลของผู้ชื่นชอบทันทีจากเว็บไซต์สังคมออนไลน์เหล่านั้น ผู้บริโภคยินดีที่จะให้ข้อมูลเชิงลึก หากเขาได้รับประโยชน์หรือบริการที่ดีมากยิ่งขึ้น
โมบายโมบายและโมบาย
โมบาย ทั้งสมาร์ทโฟนและแทบเล็ต จะเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนการตลาดออนไลน์ของปี 2556 และอนาคต ดังนั้นจะต้องเตรียมกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ผ่านโมบายไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ที่เป็นโมบายไซต์? หรือโมบายแอพพลิเคชั่นรวมไปถึงกิจกรรมออนไลน์ที่เคยผ่านคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปมาสู่โมบาย อาทิการสั่งซื้อออนไลน์การชำระเงินออนไลน์หรือธุรกรรมต่างๆ
เพียงแค่ 5 วิธีการนี้ ก็สามารถประสบความสำเร็จอย่างงามในการตลาดออนไลน์ของปีนี้แน่นอน
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
บ้านบิมดอทคอม ศูนย์จัดจำหน่าย BIM100 มังคุดประเทศไทย
จากรายการสุขและสวยทางทรูวิชชั่นช่อง8 (TNN2) ผลิตภัณฑ์กลุ่มสุขภาพอนามัยและความสวยงาม BIM100,BIM เกิดจากความประสงค์การนำผลการวิจัย BIM100 Operation BIM ของนักวิทยาศาสตร์เมืองไทยที่ทำให้คุณภาพชีวิตของทุกคนดีขึ้น ร่างกายแข็งแรง มีความสุข ภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับที่สมดุลไร้ซึ่งโรคภัยไข้เจ็บ ถ้านำเสนอแต่ผลงานวิจัยอย่างเดียวก็ยากที่คนทั่วไปจะเข้าใจได้ BIM100 จึงได้มีการเชิญผู้ที่ผ่านความเจ็บป่วย ทรมาน ป่วยไข้ ต่างๆ มาเล่าเรื่องราวประสบการณ์ปัญหาสุขภาพของตนที่ได้พบประสบมา ปัญหาสุขภาพก่อนและหลังการบริโภค BIM100 เพื่อให้ข้อมูลความรู้ต่างๆเข้าใจง่ายและถูกต้อง ศึกษาข้อมูล BIM100 เพิ่มเติมได้ที่ http://www.banbim.com
Subscribe to:
Posts (Atom)